รุ่งทิวา ครานี้ มีมวลเมฆ
ลมโยกเยก พัดเยือน เตือนฟ้าฝน
ใบไม้พลิ้ว ปลิวเยื้อง จากเบื้องบน
ลอยล่องวน กว่าพบ กระทบดิน
หนึ่งชีวิต ลอยเลือน เหมือนเดือนดับ
ดั่งอาภัพ ไร้ร้าง หนทางสิ้น
ต้องเคว้งคว้าง ว่างเปล่า เหงาชีวิน
จำโบยบิน ดิ้นฝ่า แม้พร่าพราง
ขาดแรงใจ หนุนเกื้อ เชื้อมอดเถ้า
แปลบปวดร้าว หนาวเหน็บ เจ็บมิสร่าง
อยากจะเบือน เลือนลบ จบทุกทาง
วางทุกอย่าง ธรณีกลบ จบชีวา
ลมโยกเยก พัดเยือน เตือนฟ้าฝน
ใบไม้พลิ้ว ปลิวเยื้อง จากเบื้องบน
ลอยล่องวน กว่าพบ กระทบดิน
หนึ่งชีวิต ลอยเลือน เหมือนเดือนดับ
ดั่งอาภัพ ไร้ร้าง หนทางสิ้น
ต้องเคว้งคว้าง ว่างเปล่า เหงาชีวิน
จำโบยบิน ดิ้นฝ่า แม้พร่าพราง
ขาดแรงใจ หนุนเกื้อ เชื้อมอดเถ้า
แปลบปวดร้าว หนาวเหน็บ เจ็บมิสร่าง
อยากจะเบือน เลือนลบ จบทุกทาง
วางทุกอย่าง ธรณีกลบ จบชีวา
"ดิน"
แม้นเดือนดินสิ้นแรงเข้าแฝงเมฆ
พี่..ใช้มนต์ดลเสกด้วยชิวหา
ให้น้องฟื้นคืนจิตจากนิทรา
ความเมื่อยล้าเหนื่อยอ่อนพอผ่อนคลาย
กำลังใจเข้าโอบเอื้อช่วยเกื้อหนุน
ด้วยแรงบุญล้างกรรมสู่จุดหมาย
ช่วยให้รอดปลอดภัยไม่วางวาย
ถึงแม้นตายก็มีสุขมิทุกข์ทน
ให้ล่องลอยไปคอยอยู่สรวงสวรรค์
รออยู่ชั้นดาวดึงสุ์อย่าหมองหม่น
ในชาตินี้อาจมีกรรมช้ำกมล
น้ำตาหล่นไหลพรากเมื่อจากนาง
ดินกลบหน้าพี่ไปก็ไม่หวั่น
ยังรักมั่นขวัญใจไม่หม่นหมาง
จึงเรียงร้อยถ้อยคำรำพึงพลาง
อย่าให้พี่ฝันค้าง..ยืนล่องลอย.
ริน ดอนบูรพา
๘ ก.ย. ๕๕
พี่..ใช้มนต์ดลเสกด้วยชิวหา
ให้น้องฟื้นคืนจิตจากนิทรา
ความเมื่อยล้าเหนื่อยอ่อนพอผ่อนคลาย
กำลังใจเข้าโอบเอื้อช่วยเกื้อหนุน
ด้วยแรงบุญล้างกรรมสู่จุดหมาย
ช่วยให้รอดปลอดภัยไม่วางวาย
ถึงแม้นตายก็มีสุขมิทุกข์ทน
ให้ล่องลอยไปคอยอยู่สรวงสวรรค์
รออยู่ชั้นดาวดึงสุ์อย่าหมองหม่น
ในชาตินี้อาจมีกรรมช้ำกมล
น้ำตาหล่นไหลพรากเมื่อจากนาง
ดินกลบหน้าพี่ไปก็ไม่หวั่น
ยังรักมั่นขวัญใจไม่หม่นหมาง
จึงเรียงร้อยถ้อยคำรำพึงพลาง
อย่าให้พี่ฝันค้าง..ยืนล่องลอย.
ริน ดอนบูรพา
๘ ก.ย. ๕๕