
ไผ่เสียดกอพ้อพร่ำเหมือนคำฟ้อง
กบอึ่งร้องหนองเคียงเป็นเสียงเสริม
หริ่งเรไรไพรพนาเข้ามาเติม
วิเวกเพิ่มเพลงพ้อดั่งรอใคร
ร่ำระงมขรมวอนฉะอ้อนขอ
เหมือนคำพ้อต่อว่าอย่าเฉไฉ
หลงเมืองกรุงทุ่งร้างทิ้งขว้างไป
ลืมสาบไคลให้ถวิลชื่นกลิ่นเมือง
อย่าให้คอยน้อยใจอยู่ไม่สิ้น
กลับกมลยลยินถิ่นทุ่งเหลือง
มาร่วมรื่นชื่นทองอันรองเรือง
สุกประเทืองเบื้องหน้าถิ่นนาเรา
ปลาในหนองคลองบึงอีกอึ่งกบ
จะพานพบประสบสุขสิ้นทุกข์เหงา
ฟังหรีดหริ่งเรไรเสียงไผ่เกลา
รับคืนเหย้าเฝ้าถวิลชื่นกลิ่นนา...
" บูรพ์ "

โอ้ว่าโอ้ อกเอ๋ย คนเคยรัก
ใช่เหหัก พักกายให้ห่วงหา
คิดถึงอยู่ มิคลาย ในอุรา
วังเวงพา ปวดร้าว แสนเศร้าใจ
คิดถึงนาเคยหว่าน เมื่อกาลก่อน
คิดถึงตอน อ้อนพร่ำคำสดใส
มิหลงหรอก เมืองกรุง ที่มุ่งไป
แต่จำใจ ทนอยู่ สู่หาเงิน
ยังห่วงหาตราตรึง คิดถึงมาก
ด้วยลำบาก ยากแค้น แสนขัดเขิน
หมั่นสู้งาน การทำ ใช่ย้ำเพลิน
ต้องเผชิญ อดสู อยู่เดียวดาย
คิดถึงปลา ในหนอง คลองท้ายบ้าน
เสร็จจากงานโปรดรู้ สู่เป้าหมาย
คืนนาดอน อ้อนขวัญ อย่าหวั่นกลาย
รักมากมาย หมายหอบ...มามอบเธอ..
“สุนันยา”
ใช่เหหัก พักกายให้ห่วงหา
คิดถึงอยู่ มิคลาย ในอุรา
วังเวงพา ปวดร้าว แสนเศร้าใจ
คิดถึงนาเคยหว่าน เมื่อกาลก่อน
คิดถึงตอน อ้อนพร่ำคำสดใส
มิหลงหรอก เมืองกรุง ที่มุ่งไป
แต่จำใจ ทนอยู่ สู่หาเงิน
ยังห่วงหาตราตรึง คิดถึงมาก
ด้วยลำบาก ยากแค้น แสนขัดเขิน
หมั่นสู้งาน การทำ ใช่ย้ำเพลิน
ต้องเผชิญ อดสู อยู่เดียวดาย
คิดถึงปลา ในหนอง คลองท้ายบ้าน
เสร็จจากงานโปรดรู้ สู่เป้าหมาย
คืนนาดอน อ้อนขวัญ อย่าหวั่นกลาย
รักมากมาย หมายหอบ...มามอบเธอ..

“สุนันยา”