สี่ปีจบปริญญา..แล้วว่าไหม
สี่ปีใน บ้านกลอน เหมือนตอนประถม
เริ่มหัดเขียน ก-กา เหมือนมางม
เริ่มหาปมชีวิต..ลิขิตกานท์
แล้วนับจาก วันนี้ กี่ปีเล่า
ที่ขวัญเจ้าต้องเพียรเรียนสื่อสาร
กี่เหลี่ยมคูต้องรู้สู่ดวงมาน
กี่คำหวานที่หวังตั้งตาคอย
นับจากวันเป็นปีที่สังขาร
ต้องอยู่ต้านปรารถนามาเอื้อมสอย
เปลี่ยนเลขหลัก หักฝัน มันหลุดลอย
ความสาวคล้อยถอยลงปลงอนิจจัง
สี่ปีผ่าน อาการเป็นไงบ้าง
มีความต่างใดเช่นเป็นความหลัง
เจอคู่รักสลักสองฉลองยัง?
หรือคือนั่งจับเจ่า..เหงาเหมือนเคย..
สี่ปีใน บ้านกลอน เหมือนตอนประถม
เริ่มหัดเขียน ก-กา เหมือนมางม
เริ่มหาปมชีวิต..ลิขิตกานท์
แล้วนับจาก วันนี้ กี่ปีเล่า
ที่ขวัญเจ้าต้องเพียรเรียนสื่อสาร
กี่เหลี่ยมคูต้องรู้สู่ดวงมาน
กี่คำหวานที่หวังตั้งตาคอย
นับจากวันเป็นปีที่สังขาร
ต้องอยู่ต้านปรารถนามาเอื้อมสอย
เปลี่ยนเลขหลัก หักฝัน มันหลุดลอย
ความสาวคล้อยถอยลงปลงอนิจจัง
สี่ปีผ่าน อาการเป็นไงบ้าง
มีความต่างใดเช่นเป็นความหลัง
เจอคู่รักสลักสองฉลองยัง?
หรือคือนั่งจับเจ่า..เหงาเหมือนเคย..
"บ้านริมโขง"
มองย้อนวัน ผ่านห้วง ช่วงอดีต
ที่เขียนขีด กรีดคำ เพื่อนำเผย
ภาษาฝัน ลานอักษร คราอ้อนเอย
นำเปรียบเปรย สูม่าน ขัวญกวี
ยังเตาะแตะ ไต่เต้า เฝ้าใฝ่หา
ปรารถนา พารื่น ชื่นฉวี
แม้ผ่านกาลนานเนิ่น เกินสี่ปี
ยังคงมี ใจคล้อง สนองกานท์
ไม่วางแปรน เป้าหมาย ให้สูงส่ง
หวังเพียงลง อักขรา มาสื่อสาร
เป็นงานศิลป์ รินรัก สลักมาน
มีทั้งหวาน คลอเคล้าอีกเศร้าตรม
สี่ปีผ่าน อาการ ยังรานร้าว
คงความสาว สคราญ สำราญสม
ไร้คู่หมาย เคียงมาน ยังซานซม
แต่อารมย์ สร้างฝัน นี้มั่นคง...
“สุนันยา”