(กาลเวียนเปลี่ยนผ่าน ตราบนานเท่านาน ตราบจันทร์หยุดผ่อง ท้องฟ้ามืดคล้ำ ทุกสิ่งมืดดำ รักยังพรำผ่อง ส่องสว่างอนันตกาล)
กาลเวลาล่วงล้วน เลือนลวง
เวียนเปลี่ยนเวียนแปรทรวง สุ่มเศร้า
เปลี่ยนทุกอย่างทั้งปวง งดเปลี่ยน ใจเฮย
ผ่านค่ำคืนตื่นเช้า ใฝ่เฝ้ารักเธอ
ตราบที่เจอพักตร์น้อง แรกพบ
นานเนิ่นกลับเพลินอบ อกอ้าย
เท่าที่พี่ประสบ สวาทสลัก
นานกว่ากรุงโรมย้าย เปลี่ยนป้ายเมืองหลวง
ตราบช่วงเดือนเด่นด้วย แสงนวล
จันทร์จรัสอร่ามอวล โอบฟ้า
หยุดสรรพสิ่งครางครวญ ครองสุข
ผ่องสว่างแสงส่องหล้า รักจ้าดังจันทร์
ท้องฟ้าพลันมืดคล้ำ คืนแรม
ฟ้าดับขับรักแพลม ผลุบ,ร้าง
มืดมิดปิดใจแจม จองเจ็บ
คล้ำหม่นปะปนบ้าง สร่างแล้วหวนคืน
ทุกคืนรื่นตื่นเต้น ตามรัก
สิ่งวิเศษที่มัก หม่นล้อม
มืดบอดเพราะขลุกขลัก เขินขยิบ เย้านอ
ดำดิ่งนิ่งนึกน้อม รักแท้แพ้เขิน
รักน้องเกินพรั่นเพ้อ เพียงคำ
ยังใคร่ครวญควรทำ รักแจ้ง
พรำพรมเพิ่มพัทธ์,พรำ พิศวาส
ผ่องเพริศพริ้มกริ่มแป้ง ปะหน้าน้องนวล
ส่องพักตร์ชวนซ่านทั้ง สกนธ์กาย
สว่างร่างอรชรฉาย ชดช้อย
อนันต์อเนกสุขโปรยปราย ยามชิด น้องนอ
กาลร่ำร่ายเรียงร้อย รักแท้ไฉนลวงฯ
ผูก..พันหวงห่วงให้...........กังวล
ใย..เยื่อเจือระคน..............ซ่านซึ้ง
สาย..น้ำหลั่งไหลวน..........ยากหยั่ง
รัก..เกิดจากก้นบึ้ง.............แห่งห้วงดวงกมล
เป็น..เหมือนมนตร์สะกดรั้ง...ตรึงตรา
หลัก..พึ่งพักพิงครา............หม่นเศร้า
ล้อม..รักหนึ่งคะนึงหา..........แนบสนิท
ใจ..พรั่งพร้อมเคียงเคล้า.......อยู่ด้วยเรียมเสมอ
มอบ..ดวงใจโอบเอื้อ............คราวครอง
ไว้..คู่ควรสนอง....................แนบเคล้า
เคียง..อยู่นิรันดร์ปอง.............ประดับ ใจนา
ขวัญ..จิตพิศเพียงเย้า.............หยอกล้อเพลินสนาน
มั่น..นักตระหนักไว้.................คือเธอ
รัก..บ่ หวังปรนเปรอ...............สักน้อย
เพียง..ยึดเหนี่ยวอย่าเผลอ......แปรเปลี่ยน
เธอ...อย่าปล่อยใจคล้อย........ห่างให้คอยครวญ
“สุนันยา”
กาลเวลาล่วงล้วน เลือนลวง
เวียนเปลี่ยนเวียนแปรทรวง สุ่มเศร้า
เปลี่ยนทุกอย่างทั้งปวง งดเปลี่ยน ใจเฮย
ผ่านค่ำคืนตื่นเช้า ใฝ่เฝ้ารักเธอ
ตราบที่เจอพักตร์น้อง แรกพบ
นานเนิ่นกลับเพลินอบ อกอ้าย
เท่าที่พี่ประสบ สวาทสลัก
นานกว่ากรุงโรมย้าย เปลี่ยนป้ายเมืองหลวง
ตราบช่วงเดือนเด่นด้วย แสงนวล
จันทร์จรัสอร่ามอวล โอบฟ้า
หยุดสรรพสิ่งครางครวญ ครองสุข
ผ่องสว่างแสงส่องหล้า รักจ้าดังจันทร์
ท้องฟ้าพลันมืดคล้ำ คืนแรม
ฟ้าดับขับรักแพลม ผลุบ,ร้าง
มืดมิดปิดใจแจม จองเจ็บ
คล้ำหม่นปะปนบ้าง สร่างแล้วหวนคืน
ทุกคืนรื่นตื่นเต้น ตามรัก
สิ่งวิเศษที่มัก หม่นล้อม
มืดบอดเพราะขลุกขลัก เขินขยิบ เย้านอ
ดำดิ่งนิ่งนึกน้อม รักแท้แพ้เขิน
รักน้องเกินพรั่นเพ้อ เพียงคำ
ยังใคร่ครวญควรทำ รักแจ้ง
พรำพรมเพิ่มพัทธ์,พรำ พิศวาส
ผ่องเพริศพริ้มกริ่มแป้ง ปะหน้าน้องนวล
ส่องพักตร์ชวนซ่านทั้ง สกนธ์กาย
สว่างร่างอรชรฉาย ชดช้อย
อนันต์อเนกสุขโปรยปราย ยามชิด น้องนอ
กาลร่ำร่ายเรียงร้อย รักแท้ไฉนลวงฯ
ผูก..พันหวงห่วงให้...........กังวล
ใย..เยื่อเจือระคน..............ซ่านซึ้ง
สาย..น้ำหลั่งไหลวน..........ยากหยั่ง
รัก..เกิดจากก้นบึ้ง.............แห่งห้วงดวงกมล
เป็น..เหมือนมนตร์สะกดรั้ง...ตรึงตรา
หลัก..พึ่งพักพิงครา............หม่นเศร้า
ล้อม..รักหนึ่งคะนึงหา..........แนบสนิท
ใจ..พรั่งพร้อมเคียงเคล้า.......อยู่ด้วยเรียมเสมอ
มอบ..ดวงใจโอบเอื้อ............คราวครอง
ไว้..คู่ควรสนอง....................แนบเคล้า
เคียง..อยู่นิรันดร์ปอง.............ประดับ ใจนา
ขวัญ..จิตพิศเพียงเย้า.............หยอกล้อเพลินสนาน
มั่น..นักตระหนักไว้.................คือเธอ
รัก..บ่ หวังปรนเปรอ...............สักน้อย
เพียง..ยึดเหนี่ยวอย่าเผลอ......แปรเปลี่ยน
เธอ...อย่าปล่อยใจคล้อย........ห่างให้คอยครวญ
“สุนันยา”