เธอก็เหงาฉันก็เหงาเศร้ายิ่งนัก
เรามารักกันไหมให้โลกหวาน
มิต้องมีเหตุผลทนร้าวราน
ความชื่นบานรออยู่ถ้ารู้กัน
เขามาหลอกออกปากฝากคำห่วง
ลิ้นชายลวงทำให้เห็นเป็นสวรรค์
กงจักรมองเป็นดอกบัวมิกลัวทัณฑ์
พอถึงวันเขาจากยากทำใจ
คนซื่อซื่อชื่อkarnkaiเธอไม่สน
ปล่อยตากฝนชอกช้ำน้ำตาไหล
เธอยังดีที่เคยคบพบกับใคร
ฉันสิไม่เคยมีรักมีภักดี
ขอเอื้อนเอ่ยเผยใจให้เธอเห็น
ถ้าพอเป็นผู้ร่วมทางอย่าร้างหนี
ถึงมิเคยมีคนรักปักชีวี
แต่ตอนนี้ขอฉันรักเธอสักคน
แล้วเหตุผลทนเหงาคงเอาทิ้ง
รักของหญิงชายคู่ใหม่ให้อีกหน
จะเคียงคู่อยู่ข้างมิห่างตน
สุขกมลยิ่งนัก...เรารักกัน
---karnkai---
เรามารักกันไหมให้โลกหวาน
มิต้องมีเหตุผลทนร้าวราน
ความชื่นบานรออยู่ถ้ารู้กัน
เขามาหลอกออกปากฝากคำห่วง
ลิ้นชายลวงทำให้เห็นเป็นสวรรค์
กงจักรมองเป็นดอกบัวมิกลัวทัณฑ์
พอถึงวันเขาจากยากทำใจ
คนซื่อซื่อชื่อkarnkaiเธอไม่สน
ปล่อยตากฝนชอกช้ำน้ำตาไหล
เธอยังดีที่เคยคบพบกับใคร
ฉันสิไม่เคยมีรักมีภักดี
ขอเอื้อนเอ่ยเผยใจให้เธอเห็น
ถ้าพอเป็นผู้ร่วมทางอย่าร้างหนี
ถึงมิเคยมีคนรักปักชีวี
แต่ตอนนี้ขอฉันรักเธอสักคน
แล้วเหตุผลทนเหงาคงเอาทิ้ง
รักของหญิงชายคู่ใหม่ให้อีกหน
จะเคียงคู่อยู่ข้างมิห่างตน
สุขกมลยิ่งนัก...เรารักกัน
---karnkai---
หากว่าเรา รักกัน ดังขานกล่าว
ความปวดร้าว คงไกล เหมือนใฝ่ฝัน
จะเป็นจริง หรือไม่ ในสัมพันธ์
น้องสุนันฯ หวั่นหนัก กลัวรักลวง
เคยแอบเห็น พี่กานต์หว่านเสน่ห์
รักถ่ายเท ท่วมท้น หลายคนหวง
มีหรือที่จะเหงา เศร้าทั้งปวง
คิดจะควง เป็นแฟน คงแสนช้ำ
เพราะตอนนี้ ความเหงา เข้าถมทับ
ให้ต้องรับ ระทม ตรมเจ็บหนำ
เหมือนบุพเพ เสกสรร ปั้นแต่งทำ
เป็นดั่งกรรม ปางใด ไม่รู้เลย
แม้นอยากรัก พี่กานต์ ดุจขานบอก
กลัวพี่หลอก ซ่อนเร้น ไม่เห็นเผย
หากเผลอไผล ใจส่ง แบบลงเอย
คงต้องเจ็บอย่างเคย ที่เอ่ยมา
ขอเวลาสักหน่อย จะค่อยคิด
รอลิขิต จากสรวง หล่นร่วงหา
ให้พรหมท่าน ชี้วาง ทางนำพา
สุนันยา จะเคียง เพียง karnkai
“สุนันยา”