หนองประจักษ์ประจักษ์จินต์ถิ่นอุดร
คราครั้งก่อนเดินเล่นลมเย็นฉ่ำ
ไม้ประดับสลับซึ้งตรึงถ้อยคำ
ยังจดจำนำสลับเธอกลับกลาย
ทางเดินเล่นมองลิบขลิบฟากหนอง
ยามรักครองเคียงคู่เดินสู่สาย
แต่ยามห่างทางเปลี่ยวแสนเดียวดาย
ดุจสุดสายปลายจากต่างฟากฟ้า
พอเลิกงานฉ่ำฉมลมเย็นฉ่ำ
สองเรานำถาดวางกลางสาดสา
รับของว่างวางยั่วตัวกานดา
ยิ้มเกลื่อนหน้าคราครั้งยังรักกัน
บัดนี้เหลือเพียงเรานั่งเจ่าจุก
ไม่อยากลุกเดินไปให้ใครหัน
ก้มมองหญ้าคราครั้งยังสัมพันธ์
ดั่งหญ้านั้นนุ่มสลวยปูด้วยพรม
บัดนี้หญ้าเขียวคลุมอุ้มดินอยู่
แต่หดหู่ในใจให้ขื่นขม
แม้หญ้าสวยแต่ใน-ใจระทม
หญ้าดุจพรมแต่กระด้างค้างคาใจ
พิษรักจากมากแผลแลประจักษ์
พิษรักผลักหนักจิตคิดหวั่นไหว
พิษรักลืมดื่มพิษติดทรวงใน
พิษรักใครไม่เท่าพิษเจ้าทำ
แลประจักษ์จนจากไม่อยากทัก
กว่าจะหักใจปลงส่งถลำ
ก็ประจักษ์จนจิตติดระกำ
ประจักษ์นำช้ำพอ..ขอลาเธอ..
คราครั้งก่อนเดินเล่นลมเย็นฉ่ำ
ไม้ประดับสลับซึ้งตรึงถ้อยคำ
ยังจดจำนำสลับเธอกลับกลาย
ทางเดินเล่นมองลิบขลิบฟากหนอง
ยามรักครองเคียงคู่เดินสู่สาย
แต่ยามห่างทางเปลี่ยวแสนเดียวดาย
ดุจสุดสายปลายจากต่างฟากฟ้า
พอเลิกงานฉ่ำฉมลมเย็นฉ่ำ
สองเรานำถาดวางกลางสาดสา
รับของว่างวางยั่วตัวกานดา
ยิ้มเกลื่อนหน้าคราครั้งยังรักกัน
บัดนี้เหลือเพียงเรานั่งเจ่าจุก
ไม่อยากลุกเดินไปให้ใครหัน
ก้มมองหญ้าคราครั้งยังสัมพันธ์
ดั่งหญ้านั้นนุ่มสลวยปูด้วยพรม
บัดนี้หญ้าเขียวคลุมอุ้มดินอยู่
แต่หดหู่ในใจให้ขื่นขม
แม้หญ้าสวยแต่ใน-ใจระทม
หญ้าดุจพรมแต่กระด้างค้างคาใจ
พิษรักจากมากแผลแลประจักษ์
พิษรักผลักหนักจิตคิดหวั่นไหว
พิษรักลืมดื่มพิษติดทรวงใน
พิษรักใครไม่เท่าพิษเจ้าทำ
แลประจักษ์จนจากไม่อยากทัก
กว่าจะหักใจปลงส่งถลำ
ก็ประจักษ์จนจิตติดระกำ
ประจักษ์นำช้ำพอ..ขอลาเธอ..
"บ้านริมโขง"