*********
ฉันจึงได้ แต่พร่ำลำนำเผย
โอ้รักเอย สิ้นร้าง วางสนอง
คงจะไร้ รักอยู่ คู่ประคอง
ได้แต่มองใครอื่นเขารื่นรมย์
นีคือเหตุ เจตนา คราเรียงร้อย
อักษรพลอย หม่นเหงา เฝ้าขื่นขม
ว่าจักเขียน ให้หวาน ก็พาลตรม
เพราะว่ารอย ระทม ที่ถมทรวง...
“สุนันยา”
...เข้าใจแล้ว ในสิ่ง ที่หญิงมั่น
ครารักกัน ฝันพา ยิ่งกว่าหวง
ไยยามนี้ ฤดีหวั่น ฤๅฝันลวง
เขาลืมห่วง ส่งจิต คิดใครคอย...
...โอ้ไฉน ใจชาย ช่างร้ายนัก
ใช้คำรัก ประหาร ร้าวรานบ่อย
เหตุเพราะย้ำ คำรัก ผลักเราพลอย
เหตุผลถ้อย รักทำ ยิ่งช้ำใจ...
...หลงความรัก วิเศษ เกินเหตุผล
ใจจึงหม่น ผวา น้ำตาไหล
คอยวันหวน ครวญเฝ้า เศร้าฤทัย
แล้วเมื่อไหร่ จะชื่น เธอ..คืนเคียง...
รัตนาวดี
ครารักกัน ฝันพา ยิ่งกว่าหวง
ไยยามนี้ ฤดีหวั่น ฤๅฝันลวง
เขาลืมห่วง ส่งจิต คิดใครคอย...
...โอ้ไฉน ใจชาย ช่างร้ายนัก
ใช้คำรัก ประหาร ร้าวรานบ่อย
เหตุเพราะย้ำ คำรัก ผลักเราพลอย
เหตุผลถ้อย รักทำ ยิ่งช้ำใจ...
...หลงความรัก วิเศษ เกินเหตุผล
ใจจึงหม่น ผวา น้ำตาไหล
คอยวันหวน ครวญเฝ้า เศร้าฤทัย
แล้วเมื่อไหร่ จะชื่น เธอ..คืนเคียง...
รัตนาวดี
ผิดที่เรา ใช่ไหม ใจง่ายนัก
เชื่อคำรัก ว่าจริงอิงแนบเสียง
เขาปากหวาน ขานไข ในสำเนียง
ที่แท้เพียง ลมปาก จากใจมาร
หญิ่งนั้นเป็นเช่นเหยื่อเมื่อกระหาย
เขาดั่งพราย จำแลง แสร้งสงสาร
ผลสุท้าย หม่นหมอง ครองร้าวราน
ถูกพล่าผลาญ ด้วยมนตร์ ของคนลวง
จึงต้องซ่อนระกำรอยช้ำชอก
ที่เขาบอก หลอกอำ ทำห่วงหวง
ทรมาน ร้อนใจ ไฟในทรวง
เพราะติดบ่วงอบาย ของชายชาญ...
"สุนันยา"
เชื่อคำรัก ว่าจริงอิงแนบเสียง
เขาปากหวาน ขานไข ในสำเนียง
ที่แท้เพียง ลมปาก จากใจมาร
หญิ่งนั้นเป็นเช่นเหยื่อเมื่อกระหาย
เขาดั่งพราย จำแลง แสร้งสงสาร
ผลสุท้าย หม่นหมอง ครองร้าวราน
ถูกพล่าผลาญ ด้วยมนตร์ ของคนลวง
จึงต้องซ่อนระกำรอยช้ำชอก
ที่เขาบอก หลอกอำ ทำห่วงหวง
ทรมาน ร้อนใจ ไฟในทรวง
เพราะติดบ่วงอบาย ของชายชาญ...
"สุนันยา"