เพราะ..เป็นเพียงหญิงหนึ่ง ซึ่งตรมจิต
เพราะ..ว่าฟ้า ลิขิต ให้ผิดหวัง
เพราะ...มีเพียง ความเศร้า เข้าประดัง
เพราะ..ความหลัง ฝังจิต คิดเรื่อยมา
เขา..ไม่เคย เข้าใจ ในความรัก
เขา..ไม่เคย ประจักษ์ ภักดิ์ห่วงหา
เขา..ไม่เคย อาวรณ์ ตอนจากลา
เขา..ไม่เคย เห็นค่า พารักไกล
เปลี่ยน..แปรไป ไม่เห็น เหมือน เช่นก่อน
เปลี่ยน..ดวงใจ จากจร จึงอ่อนไหว
เปลี่ยน..จากรัก เป็นอื่น ให้ขื่นใจ
เปลี่ยน..เป็นใคร ไม่ใช่ฉัน ในวันนี้
ใจ..ดวงน้อย ลอยลับ ไม่กลับหวน
ใจ..เรรวน เปลี่ยนคล้อย ห่างถอยหนี
ใจ..เคยมั่น ผันไป ไม่ใยดี
ใจ..ดวงนี้ จึงช้ำ...น้ำตานอง
*********
ฉันจึงได้ แต่พร่ำลำนำเผย
โอ้รักเอย สิ้นร้าง วางสนอง
คงจะไร้ รักอยู่ คู่ประคอง
ได้แต่มองใครอื่นเขารื่นรมย์
นีคือเหตุ เจตนา คราเรียงร้อย
อักษรพลอย หม่นเหงา เฝ้าขื่นขม
ว่าจักเขียน ให้หวาน ก็พาลตรม
เพราะว่ารอย ระทม ที่ถมทรวง...
“สุนันยา”
อยากเคียงข้างสำอางโฉมเพื่อโลมขวัญ
ล้างจาบัลย์ทัณฑ์ใจที่ใหญ่หลวง
แต่อกพี่นี้ก็หักด้วยรักลวง
เหมือนต้องบ่วงห่วงหาขื่อคาใจ
หากความเศร้าเหงาตรมประสมสอง
น้ำตาของน้องพี่จะปรี่ไหล
ผ่านอักษรกลอนกานท์ของบ้านไทย
ไม่ว่าใครได้อ่านจะพานตรม
ขอส่งใจให้รู้ว่าอยู่ข้าง
ถึงแม้ร่างห่างไกลไม่เคียงสม
แต่อักษรกลอนกานท์สำราญชม
น้ำตาพรมประสมน้องเจ้าของกลอน...
" บูรพ์ "