ใจกระดาษอาจยับเมื่อรับหมึก
เธอจารึกตรึกทวนรัญจวนหาย
เนื้อความขมตามเศร้าเงารักคลาย
ในสุดท้ายกลายว่ายับหน้านั้น
เมื่อเธอเป็นเช่นคนดลลิขิต
ร่างชีวิตสิทธิ์คู่ใจรู้หวั่น
เมื่อเธอเบื่อกระดาษก็ขาดพลัน!
สุดท้ายฉันมันก็ ทดท้อเกิน
ฉันก็เป็นเช่นวาดกระดาษเขียน
หลายบทเรียนเพียรพบประสบเผิน
ทางทุกสายในมือเธอถือเดิน
ตัวเธอเพลินฉันมันกระดาษเอง
ทุกถ้อยพจน์ทรสรักสลักไว้
ทุกขมขื่นดื่นใดหัวใจเปล่ง
ทุกทุกการกระทำย้ำบรรเลง
ก็เหมือนเพลงเร่งเร้าเว้าอาวรณ์
เธอจารึกตรึกทวนรัญจวนหาย
เนื้อความขมตามเศร้าเงารักคลาย
ในสุดท้ายกลายว่ายับหน้านั้น
เมื่อเธอเป็นเช่นคนดลลิขิต
ร่างชีวิตสิทธิ์คู่ใจรู้หวั่น
เมื่อเธอเบื่อกระดาษก็ขาดพลัน!
สุดท้ายฉันมันก็ ทดท้อเกิน
ฉันก็เป็นเช่นวาดกระดาษเขียน
หลายบทเรียนเพียรพบประสบเผิน
ทางทุกสายในมือเธอถือเดิน
ตัวเธอเพลินฉันมันกระดาษเอง
ทุกถ้อยพจน์ทรสรักสลักไว้
ทุกขมขื่นดื่นใดหัวใจเปล่ง
ทุกทุกการกระทำย้ำบรรเลง
ก็เหมือนเพลงเร่งเร้าเว้าอาวรณ์
ใจกระดาษ ยับย่อย เพราะรอยหมึก
เธอจารึก มันลง ตรงจุดหมาย
ในเนื้อความ บรรเท่าเศร้า ความเหงาคลาย
สิ่งสุดท้าย ที่ได้รับ มันกลับกัน
เมื่อเธอเป็น เช่นคน ดลดวงจิต
ด้วยลิขิต หลอนใจ ให้ไหวหวั่น
เมื่อเธอเบื่อ กระดาษ ฉีกขาดพลัน
สุดท้ายฉัน ก็นั่งเศร้า เหงาเหลือเกิน
ฉันก็เป็น เช่นกระดาษ เธอวาดเขียน
ร่ายบทเรียน บทรัก ชักใจเขิน
ทุกท่วงท่า เธอกำหนด จดดำเนิน
ฉันก็เดิน ตามฝัน เธอบรรเลง
ทุกถ่อยคำ ย้ำรักรัก สลักไว้
เสียงหัวใจ คล้ายระฆัง ดังหง่างเหง่ง
เสียงปนเศร้า เหงาใจ ให้วังเวง
เหมือนบทเพลง เร่งเร้า เว้าอาวรณ์
ชลนา ทิชากร
เธอจารึก มันลง ตรงจุดหมาย
ในเนื้อความ บรรเท่าเศร้า ความเหงาคลาย
สิ่งสุดท้าย ที่ได้รับ มันกลับกัน
เมื่อเธอเป็น เช่นคน ดลดวงจิต
ด้วยลิขิต หลอนใจ ให้ไหวหวั่น
เมื่อเธอเบื่อ กระดาษ ฉีกขาดพลัน
สุดท้ายฉัน ก็นั่งเศร้า เหงาเหลือเกิน
ฉันก็เป็น เช่นกระดาษ เธอวาดเขียน
ร่ายบทเรียน บทรัก ชักใจเขิน
ทุกท่วงท่า เธอกำหนด จดดำเนิน
ฉันก็เดิน ตามฝัน เธอบรรเลง
ทุกถ่อยคำ ย้ำรักรัก สลักไว้
เสียงหัวใจ คล้ายระฆัง ดังหง่างเหง่ง
เสียงปนเศร้า เหงาใจ ให้วังเวง
เหมือนบทเพลง เร่งเร้า เว้าอาวรณ์
ชลนา ทิชากร