จิตรำพึงจึงรำเพยเปิดเผยออก
อ้อนคำบอกจากทรวงห่วงสมร
มีอ้างว้างเหว่ว้าแสนอาวรณ์
สุดถ่ายถอนร้อนรุ่มคลุมกมล
การพลัดพรากจากรักมักเป็นทุกข์
เศร้าคอยปลุกรุกไล่ให้สับสน
พะว้าพะวังดั่งจมติดหล่มตน
อื้ออึงอนหม่นหมองนองน้ำตา
คิดถึงเขาคร่ำครวญหวนละห้อย
ใจเลื่อนลอยคล้อยค่ำพร่ำเรียกหา
อยู่หนใดใฝ่เพ้อเธอคืนมา
นับทิวาที่ผ่านสะท้านทรวง
แสงแดดอ่อนยามเย็นเห็นเงาเรื่อ
จืดจางเหลือเหลื่อมลับจับแดนสรวง
ดุจฤทัยไหลลับไปกับดวง
ให้หนาวหน่วงห่วงหาโอ้..อาลัย
ค่ำคืนค่อนนอนเดี่ยวแสนเปลี่ยวจิต
พรหมลิขิตขีดค่าน้ำตาไหล
ทบทวนทางย่างเดินช่างเกินไป
ต้องห่างไกลไยแกล้งแต่งระทม
เปิดหมายเหตุ ชีวิต ลิขิตเพิ่ม
เขียนต่อเติมเพิ่มคำย้ำขื่นขม
ถามชีวิต..เมื่อไหร่ หายตรอมตรม
ชื่นสุขสม มีไหม...ในวันคอย..
อ้อนคำบอกจากทรวงห่วงสมร
มีอ้างว้างเหว่ว้าแสนอาวรณ์
สุดถ่ายถอนร้อนรุ่มคลุมกมล
การพลัดพรากจากรักมักเป็นทุกข์
เศร้าคอยปลุกรุกไล่ให้สับสน
พะว้าพะวังดั่งจมติดหล่มตน
อื้ออึงอนหม่นหมองนองน้ำตา
คิดถึงเขาคร่ำครวญหวนละห้อย
ใจเลื่อนลอยคล้อยค่ำพร่ำเรียกหา
อยู่หนใดใฝ่เพ้อเธอคืนมา
นับทิวาที่ผ่านสะท้านทรวง
แสงแดดอ่อนยามเย็นเห็นเงาเรื่อ
จืดจางเหลือเหลื่อมลับจับแดนสรวง
ดุจฤทัยไหลลับไปกับดวง
ให้หนาวหน่วงห่วงหาโอ้..อาลัย
ค่ำคืนค่อนนอนเดี่ยวแสนเปลี่ยวจิต
พรหมลิขิตขีดค่าน้ำตาไหล
ทบทวนทางย่างเดินช่างเกินไป
ต้องห่างไกลไยแกล้งแต่งระทม
เปิดหมายเหตุ ชีวิต ลิขิตเพิ่ม
เขียนต่อเติมเพิ่มคำย้ำขื่นขม
ถามชีวิต..เมื่อไหร่ หายตรอมตรม
ชื่นสุขสม มีไหม...ในวันคอย..
"บ้านริมโขง"
๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๕
ปากบอกหวง ห่วงใย ในสมร
ยังออดอ้อน น้ำคำ ฉ่ำสุดสอย
ไม่อยากเศร้า จริงจริง จึงนิ่งคอย
ความเหงาหงอย ทุกครั้ง ยังนั่งตรม
ความพลัดพราก จากกัน แสนหวั่นจิต
เฝ้าครุ่นคิด ถึงอยู่ มิรู้สม
ความเจ็บปวด รวดร้าว คราวระทม
ได้แต่ก้ม หน้ารับกับ โชคชะตา
ไม่เป็นไร ท่องไว้ ปลอบใจบ่อย
ไม่เป็นไร อย่างน้อย ระห้อยหา
ไม่เป็นไร ถึงช้ำหนัก หักอุรา
ไม่เป็นไร แค่ชีวา ครวญหารัก
พันทอง