- - หวังเช้าตรู่.วันพรุ่ง.จะรุ่งเรือง
- - แลลืมเรื่อง.เรียกร้อง.ที่หมองไหม้
- - การรอข่าว.คนลวง.ที่ห่วงใย
- - มืดหม่นใน.ดวงมาน.ประจานทรวง
........ฯ.......
ก็ครวญคร่ำพร่ำเพ้อเสมอนี่
จากหลายปีที่ผ่านสะท้านสรวง
ว่าทั้งคอยหงอยเหงาคนเข้าควง
วัยเลยล่วงป่านนี้ ไร้วี่แวว
รู้ทั้งรู้ ชู้ชม มากคมเหลี่ยม
ทิ่มอกเรียมแดดิ้นถวิลแถว
รู้เขาลวงยังหลงประสงค์แนว
สาสมแล้ว ที่เศร้าเหงาสิบปี
ไปรักคน..ที่เขา..ไม่รักเรา
เรียมจึงเศร้า เหงานัก รักหลีกหนี
ไม่เหลือใครไหนถวิล..มายินดี
มาโศกี โศกา หาอะไร ?
พี่ยังอยู่ ทั้งคน หน้ามนเฉย
แม้จะเอ่ย อ้อนหา..ว่าเหลวไหล
สุดมืดบอด ออดอ้าง วางเยื่อใย
มองข้ามไป ด้วยหมาย..แต่ชายลวง
จึงวันนี้ที่พร่ำค่ำเหน็บหนาว
ด้วยกายสาวหนาวใจอย่างใหญ่หลวง
สะท้านกายหน่ายเหน็บเจ็บในทรวง
เลยอ้อนดวงดารา..ยามล้าโรย..
จากหลายปีที่ผ่านสะท้านสรวง
ว่าทั้งคอยหงอยเหงาคนเข้าควง
วัยเลยล่วงป่านนี้ ไร้วี่แวว
รู้ทั้งรู้ ชู้ชม มากคมเหลี่ยม
ทิ่มอกเรียมแดดิ้นถวิลแถว
รู้เขาลวงยังหลงประสงค์แนว
สาสมแล้ว ที่เศร้าเหงาสิบปี
ไปรักคน..ที่เขา..ไม่รักเรา
เรียมจึงเศร้า เหงานัก รักหลีกหนี
ไม่เหลือใครไหนถวิล..มายินดี
มาโศกี โศกา หาอะไร ?
พี่ยังอยู่ ทั้งคน หน้ามนเฉย
แม้จะเอ่ย อ้อนหา..ว่าเหลวไหล
สุดมืดบอด ออดอ้าง วางเยื่อใย
มองข้ามไป ด้วยหมาย..แต่ชายลวง
จึงวันนี้ที่พร่ำค่ำเหน็บหนาว
ด้วยกายสาวหนาวใจอย่างใหญ่หลวง
สะท้านกายหน่ายเหน็บเจ็บในทรวง
เลยอ้อนดวงดารา..ยามล้าโรย..
"บ้านริมโขง"