๐ ละอองไอ ๐
๐ กอดกายปรายมองละอองครึ้ม
อึมครึมทึมทับพยับฝน
แผ่วพลิ้วปลิวเยื้องจากเบื้องบน
ละอองหล่นหม่นพรูอณูไอ
๐ แรกไหวในอณูที่รู้สึก
ยะเยียบลึกผลึกแววดูแพรวใส
ดวงวันผันหลัวชั่วอึดใจ
ก็หลั่งไหลไหวโถมเป็นโครมครืน
๐ ดอกดวงช่วงฉ่ำคล้ายรำร่าย
กรุ่นกำจายตฤปฉมวะรมย์รื่น
หลังวสันต์ผันคาบทาบช่วงคืน
ละอองชื่นกลืนภพเมื่อสบมอง
๐ ชำแรกแมกพันธุ์ครรภ์โพสพ
ล้างลบกลบหม่นระทนหมอง
แตกกอต่อผลิสิเนืองสินอง
ไหลล่องพรั่งพรูสู่จินตนา
๐ เรื่อรำบายคล้ายภาพที่ฉาบไล้
ละล่องไว้ในแสงแห่งอุษา
คือความงามท่ามวารผ่านเวลา
แห่งพรรษาฟ้าโปรยโชยโชนชุม ๚
ก้าวแรกฯ...
นั่งมอง ฟองฝอย ลอยหน้าต่าง
เคว้งคว้าง บางเบา เรายิ่งกลุ้ม
จากค่อย คล้อยเคลื่อน เหมือนโดนรุม
ไฟสุม สุ่มเศร้า เหงาวิญญา
ยะเยือก ทันที ที่สู้สึก
หนาวเหน็บ เจ็บจึก นึกถึงหน้า
ยามหลับ กลับฝัน สั่นอุรา
รักเรา เขาคว้า ท่าจะพัง
ยามนี้ หนีหลบ พบแล้วจาก
ลำบาก ยากเข็ญ เข่นเขี้ยวฝัง
ร้าวรวด ปวดแปลบ แสบเสียจัง
ความหวัง พังพาด ขาดเหลียวแล
พันทอง