ฯลฯ
ซ่อมฝายพัง พนังขาด อาจไม่เสร็จ
น้ำนับเม็ด เจือโคลน ติดก้นอ่าง
ขอฝากฝัง ครั้งท้าย ก่อนวายวาง
คิดถึงบ้าง หากรัก สักนาที
รพีกาญจน์ 59
ลืมตาตื่น ตีห้า ฟ้าฉ่ำฝน
พิรุณหล่น จนหม่นเทา ไร้เงาสี
ลมกรรโชก โบกมา พนาลี
ธรณี ฉ่ำชุ่ม อุ้มวาริน
หลายวันผ่าน กาลเคลื่อน ยังเปื้อนเปรอะ
พื้นแฉะเฉอะ เลอะเทอะ เผลอล้มดิ้น
รถสัญจร ไปมา ถลาบิน
เมื่อไรสิ้น หน้าฝน บ่นกันจม
ต่างจากที่ ทางเหนือ เบื่ออากาศ
ถิ่นเขาขาด ฝนพรำ น้ำไม่สม
สวน,ไร่,นา พาแห้งขอด กอดเข่าตรม
ไยมิก้ม ดูนั่น ท่านเทวดา
ขอส่งใจ ไปช่วย อวยหนุนเกื้อ
อย่าเพิ่งเบื่อ เลยหนอ อย่าท้อหนา
รู้ว่าอยู่ แห้งแล้ง แบ่งดินฟ้า
ดวงชีวา ศศิ-รพีฯ มีหนึ่งเดียว
พิรุณหล่น จนหม่นเทา ไร้เงาสี
ลมกรรโชก โบกมา พนาลี
ธรณี ฉ่ำชุ่ม อุ้มวาริน
หลายวันผ่าน กาลเคลื่อน ยังเปื้อนเปรอะ
พื้นแฉะเฉอะ เลอะเทอะ เผลอล้มดิ้น
รถสัญจร ไปมา ถลาบิน
เมื่อไรสิ้น หน้าฝน บ่นกันจม
ต่างจากที่ ทางเหนือ เบื่ออากาศ
ถิ่นเขาขาด ฝนพรำ น้ำไม่สม
สวน,ไร่,นา พาแห้งขอด กอดเข่าตรม
ไยมิก้ม ดูนั่น ท่านเทวดา
ขอส่งใจ ไปช่วย อวยหนุนเกื้อ
อย่าเพิ่งเบื่อ เลยหนอ อย่าท้อหนา
รู้ว่าอยู่ แห้งแล้ง แบ่งดินฟ้า
ดวงชีวา ศศิ-รพีฯ มีหนึ่งเดียว
"ดิน"