มีเพียงแขนแทนหมอนให้นอนหนุน
ไร้เนื้ออุ่นกรุ่นเจือเมื่อหลับไหล
บรรจถรณ์นอนดินสิ้นละไม
หริ่งเรไรให้เสียงสำเนียงนอน
ท้องนภาฟ้ากว้างไม่ต่างมุ้ง
เดือนดาวรุ่งเรืองอะคร้าวพราวสลอน
ไม่ต่างโคมโลมอุราด้วยอาทร
ยามร้าวรอนสมรขาดอนาถใจ
อยู่กับเงาเท้าสองประคองร่าง
ทุกถิ่นทางย่างยลชลไศล
ยังฝังจิตติดทรวงดวงฤทัย
แม้เศษนัยใคร่หาหยิบคว้าชม
แม้นจะรู้อยู่แก่ใจให้ประจักษ์
ยากหมายรักสมัครปองประคองสม
แต่อนาถประหลาดซึ้งตรึงอารมณ์
ยอมระทมขมรับกับความลวง...
" บูรพ์ "