ฯ ล ฯ
แสนเดียวดายปลายฝันชีวันวาด
สิ้นนี้ชาติเดียวดายจะหายไหม
หากเกิดอีกหลีกเร้นเช่นดั่งใจ
เป็นคนใหม่ได้โชค..พ้นโศกคน.
"กานต์ฑิตา"
๓ สิงหาคม ๒๕๕๕
พร่ำรำพึงคะนึงครวญให้ชวนเศร้า
ความเปลือยเปล่าเดียวดายสยายหม่น
คลุมครอบร่างพรางแสงจำแลงตน
ทุกข์จำทนบนครอบกรอบชีวิต
คือทุกผู้รู้เกิดเฉิดไสว
แต่มีใครเลือกหมายคล้ายประกาศิต
จำต้องยอมเป็นไปเกินใจคิด
ตามลิขิตของกรรมที่นำพา
มองให้ลึกนึกต่อใครหนอเลิศ
ใครหนอเกิดไร้ทุกข์เข้าคลุกหา
ใครหนอเห็นว่าเป็นเช่นเทวดา
ในโลกามีไหมในตัวตน
ทุกถ้วนมีเกิดแก่และเจ็บตาย
สู่เป้าหมายปลายข้างอย่างไม่พ้น
ทุกข์ที่เห็นเป็นครั้งดั่งเล่นกล
สุขกมลเพียงฝันในวันคืน
ไม่จีรังดังองค์พระสัมมา
เทศนาค่าควรชวนให้ตื่น
ไม่ยึดติดสิ่งใดในมะรืน
ให้รู้ชื่นเบิกบานงานปัจจุบัน
เพียงละครบทหนึ่งซึ่งกำกับ
บทสวมทับรับเล่นเด่นมหันต์
แต่จริงใจไม่ชอบในกรอบมัน
อยากเร่งวันให้จบเพื่อลบลาย
เถิด.ก็ฉัน หนึ่งคน บนลิขิต
ที่ชีวิตพลิกผันบั่นสลาย
อยู่เป็นคนเพียงร่างอำพรางกาย
แต่จิตนั้น ได้ตาย ไปจากตน.
ความเปลือยเปล่าเดียวดายสยายหม่น
คลุมครอบร่างพรางแสงจำแลงตน
ทุกข์จำทนบนครอบกรอบชีวิต
คือทุกผู้รู้เกิดเฉิดไสว
แต่มีใครเลือกหมายคล้ายประกาศิต
จำต้องยอมเป็นไปเกินใจคิด
ตามลิขิตของกรรมที่นำพา
มองให้ลึกนึกต่อใครหนอเลิศ
ใครหนอเกิดไร้ทุกข์เข้าคลุกหา
ใครหนอเห็นว่าเป็นเช่นเทวดา
ในโลกามีไหมในตัวตน
ทุกถ้วนมีเกิดแก่และเจ็บตาย
สู่เป้าหมายปลายข้างอย่างไม่พ้น
ทุกข์ที่เห็นเป็นครั้งดั่งเล่นกล
สุขกมลเพียงฝันในวันคืน
ไม่จีรังดังองค์พระสัมมา
เทศนาค่าควรชวนให้ตื่น
ไม่ยึดติดสิ่งใดในมะรืน
ให้รู้ชื่นเบิกบานงานปัจจุบัน
เพียงละครบทหนึ่งซึ่งกำกับ
บทสวมทับรับเล่นเด่นมหันต์
แต่จริงใจไม่ชอบในกรอบมัน
อยากเร่งวันให้จบเพื่อลบลาย
เถิด.ก็ฉัน หนึ่งคน บนลิขิต
ที่ชีวิตพลิกผันบั่นสลาย
อยู่เป็นคนเพียงร่างอำพรางกาย
แต่จิตนั้น ได้ตาย ไปจากตน.
"บ้านริมโขง"
๔ สิงหาคม ๒๕๕๕