จะรู้ไหมใครเล่าเฝ้าขื่นขม
ฝากลอยลมปมเห็นเป็นปริศนา
ซุกบทกลอนอักษรแนบเคียงแอบมา
ให้ค้นคว้าหาดูจะรู้ความ
สิ่งที่แนบแอบไว้ให้ควานหา
ขอวอนว่าอย่าลุกลี้ด่วนผลีผลาม
ด้วยของรักจักแตกสิ้นแหลกตาม
เหมือนดั่งไฟไหม้ลามคุกคามเรา
อย่าสิ้นหน่ายสายลมให้ขมจิต
จะแพร่ฤทธิ์พิษลวงให้ทรวงเฉา
พระพายคือสื่อฝันช่วยบรรเทา
พัดหงอยเหงาเศร้าโศกได้โบกลา
ขอบอกนัยให้คิดสักนิดหนึ่ง
ความคะนึงถึงน้องน้อยละห้อยหา
ยังคงอยู่คู่ถวิลในวิญญาณ์
แนบอักษรามาให้ได้ยินยล...
" บูรพ์ "
ไม่อาจรู้ความนัยใครขื่นขม
เพียงฝากลม พรมผ่าน จากม่านฝน
ด้วยดวงใจ สุดเหงา ที่เฝ้าทน
กับเหตุผล คนท้อ ที่รอนาน
สิ่งเคยซ่อน อ้อนงาม ในความหมาย
สื่อเรียงราย ล้อมรับ จับประสาน
คือรักหนึ่ง ตรึงแนบแอบดวงมาน
กลายร้าวราน ผลาญพล่า อุราตรม
จึงกระซิบ บอกความ ลำนำส่ง
มิอาจปลง คงรับ สิ่งทับถม
ลมพัดลวง บ่วงช้ำ ตอกย้ำปม
ให้เป็นรอย ระทม ขื่นขมทรวง
โอ้ลมเอย เคยพัด สะบัดถึง
เมื่อครั้งหนึ่ง ซึ้งนัก รักห่วงหวง
แต่บัดนี้ เคลื่อนหาย คลับคล้ายลวง
เป็นรอยกลวง ห้วงลึก ตกผลึกใจ...
“สุนันยา”
เพียงฝากลม พรมผ่าน จากม่านฝน
ด้วยดวงใจ สุดเหงา ที่เฝ้าทน
กับเหตุผล คนท้อ ที่รอนาน
สิ่งเคยซ่อน อ้อนงาม ในความหมาย
สื่อเรียงราย ล้อมรับ จับประสาน
คือรักหนึ่ง ตรึงแนบแอบดวงมาน
กลายร้าวราน ผลาญพล่า อุราตรม
จึงกระซิบ บอกความ ลำนำส่ง
มิอาจปลง คงรับ สิ่งทับถม
ลมพัดลวง บ่วงช้ำ ตอกย้ำปม
ให้เป็นรอย ระทม ขื่นขมทรวง
โอ้ลมเอย เคยพัด สะบัดถึง
เมื่อครั้งหนึ่ง ซึ้งนัก รักห่วงหวง
แต่บัดนี้ เคลื่อนหาย คลับคล้ายลวง
เป็นรอยกลวง ห้วงลึก ตกผลึกใจ...
“สุนันยา”