๐เพียงลมโลมไล้เลยผ่าน
ก่อเกิดอาการระเริงหลง
คร่ำ..คราทุกข์ผ่านรุก..ครวญ..สุขคง
เพียงพรมลงพร่างจมกับลมโลม
๐คราสุขสมลมเรื่อก็เจือสุข
เมื่อยามทุกข์ลมโรยก็โหยโหม
กอรปประดังเรื่องหลังประชันโรม
เปรียบประดุจจุดโคมกลางลมตึง
๐หากจะเห็นต้องสดับกับรู้สึก
สงบลึกตรึกฟังภวังค์ถึง
มโนสงบลบจริตที่ติดตรึง
กาย.ใจ.เป็นหนึ่งมิพรึงไหวในสายลม
เพียงยึดติดกับอดีต
เพียงยึดติดกับตัวตน
เพียงความยึดมั่นถือมั่น
ไม่ว่าจะไปยังที่แห่งใด
แม้แต่ในห้องหับอันมิดชิด.อบอุ่น
สายลมยังพัดพาใจให้ไหวโยน
ด้วยจิตคาระวะ
ก้าวแรกฯ...
ก่อเกิดอาการระเริงหลง
คร่ำ..คราทุกข์ผ่านรุก..ครวญ..สุขคง
เพียงพรมลงพร่างจมกับลมโลม
๐คราสุขสมลมเรื่อก็เจือสุข
เมื่อยามทุกข์ลมโรยก็โหยโหม
กอรปประดังเรื่องหลังประชันโรม
เปรียบประดุจจุดโคมกลางลมตึง
๐หากจะเห็นต้องสดับกับรู้สึก
สงบลึกตรึกฟังภวังค์ถึง
มโนสงบลบจริตที่ติดตรึง
กาย.ใจ.เป็นหนึ่งมิพรึงไหวในสายลม
เพียงยึดติดกับอดีต
เพียงยึดติดกับตัวตน
เพียงความยึดมั่นถือมั่น
ไม่ว่าจะไปยังที่แห่งใด
แม้แต่ในห้องหับอันมิดชิด.อบอุ่น
สายลมยังพัดพาใจให้ไหวโยน
ด้วยจิตคาระวะ
ก้าวแรกฯ...
ในบางคราว ร้าวรวด ปวดใจแสน
หาใดแทน แก่นใจ คงไกลโพ้น
ความหวังดั่ง ลมไกว ไหวเอนโอน
เหมือนอยู่โคน พฤกษา คราลมครวญ
ให้สายลม โลมไล้ ด้วยใจหม่น
รอเพียงผล ได้รับ ซับกำสรวล
ลมละเมอ เผลอไผล ใจรัญจวน
ลมเย้ายวน ป่วนจิต ลิขิตใด
"สุนันยา"