ยินเสียงไหม ในเวิ้งกว้างอาณาจักร
ลมดึกทักด้วยความห่วงดวงดาวหนึ่ง
หรือเลือนแล้วแววตาคราคะนึง
จึงร้างไกลกันซึ่งไร้ข่าวคราว
ฉันยังมองท้องฟ้าเพลาค่ำ
รอแสงนำก่อฝันตามลานหาว
กระพริบส่งลงทักฟากฟ้าพราว
ช่วยไล่ความเหน็บหนาวของคนท้อ
ดึกนี้ หรี่เเสียงเพลง,เร่งความฝัน
แต่คล้ายว่า ภวังค์หวั่นยังคั่นต่อ
จึงหวนหาแสงดาวมาถักทอ
เพื่อฝันพอประมาณ สู่ลานใจ
จบข้อความสั้นสั้นตามสาส์นสื่อ
แล้วหอบลมดึกอื้อกระพือใส่
พร้อมแสตมป์แสงดาวติดกาวใจ
บอกคนไกลอย่าร้างห่างกันนาน
พี่สุวรรณ
ลมดึกทักด้วยความห่วงดวงดาวหนึ่ง
หรือเลือนแล้วแววตาคราคะนึง
จึงร้างไกลกันซึ่งไร้ข่าวคราว
ฉันยังมองท้องฟ้าเพลาค่ำ
รอแสงนำก่อฝันตามลานหาว
กระพริบส่งลงทักฟากฟ้าพราว
ช่วยไล่ความเหน็บหนาวของคนท้อ
ดึกนี้ หรี่เเสียงเพลง,เร่งความฝัน
แต่คล้ายว่า ภวังค์หวั่นยังคั่นต่อ
จึงหวนหาแสงดาวมาถักทอ
เพื่อฝันพอประมาณ สู่ลานใจ
จบข้อความสั้นสั้นตามสาส์นสื่อ
แล้วหอบลมดึกอื้อกระพือใส่
พร้อมแสตมป์แสงดาวติดกาวใจ
บอกคนไกลอย่าร้างห่างกันนาน
พี่สุวรรณ
หยุดฟัง! เสียงดนตรี ที่เคยชอบ
ยินใบไม้แห้งกรอบลมหอบผ่าน
ข้างม้าหินไม้หอมล้อมเบ่งบาน
เก็บของเล่นของหลาน , นิทานเล่มบาง
หยิบดินสอขึ้นเหลาแท่งเก่า-ใหม่
เขียนถึงคนทิศใต้แสนไกลห่าง
หนาวลมดึกชุ่มฉ่ำหยดน้ำค้าง
เปิดหน้าต่าง, ล้างหน้า, ชงชาร้อน
เอกสารถูกคัดจัดใส่แฟ้ม
หลังทาแยมรสส้ม ลมเริ่มผ่อน
กิ่งไม้แห้งเสียดสีหลอดนีออน
นอกห้องนอนแสงดาวพราวกะพริบ
ดึกนี้, ลมไกวเปลทะเลยิ้ม
ดูสิ, ริมขอบฟ้า – ดาริกาเป็นสิบ
เพลินเพลงลมลอยล่องทำนองทิพย์
ยกถ้วยจิบชาร้อน, ก่อนนับดาว
ฤดูฝนย่างเยือนจนเดือนเจ็ด
สามสิบเอ็ดกรกฎามาส่งข่าว
ว่า – บนโต๊ะเตรียมการหยุดงานยาว
มีแมวหง่าวตัวใหม่ไต่กำแพง
กดน้ำร้อนชงชามาหลายรอบ
ลมกระพืออื้อหอบขอบม่านแกว่ง
ขนมปังหายร้อนนอนแอ้งแม้ง
มดขยันหลายแรงเริ่มแฝงตัว
หลังหยุดพัก,เก็บของ มองตามเสียง
ริมระเบียงโมบายไหวไปทั่ว
ลมพัดโหมวูบผ่านโน้มก้านบัว
อุ่นในหัวใจรักอยากขอบคุณ.
แก้ไขไฟล์แนบโดยผู้ดูแลระบบ