..แลมองฟ้ายามนี้สีเศร้าเศร้า
มิเห็นเงาตะวันมาอวดโฉม
มีแต่สายพิรุณปลอบประโลม
เพียรเหนี่ยวโน้มใจฉันให้รันทด
ขอร้อง...อย่าทำแบบนี้เลยฟ้า
เท่านี้ก็เหนื่อยล้าแรงแห้งหด
อยากเห็นฟ้าสีครามที่งามงด
พร้อมกับบทกวีที่ปลุกขวัญ
อยากเห็นสายรุ้งหวานพาดน่านฟ้า
มีนกกาบินวนบนรุ้งนั่น
พร้อมแดดอ่อนก่อนลาทิวาวัน
เผื่อว่าหัวใจฉัน...จะร่าเริง...
...ส.เชื้อจันทร์...
๒๘ ก.ค. ๕๕
ฟ้าวันนี้ที่มีสีเทาหม่น
ดั่งระคนบนเงาเขาปล่อยเหลิง
ฝันผวาพาขวัญล้วนกระเจิง
ร้อนเปลวเพลิงเผาสุมรุมเร้าทรวง
ฟ้าวันนี้มีน้ำตามาร้องไห้
รินร่ำไรรดหลั่งพลั้งเผลอห่วง
เหน็บหนาวเหลือเชื่อถ้อยร้อยลิ้นลวง
ยิ่งกว่าบ่วงบาศร้ายหมายชีวา
ฟ้าวันนี้หนีหน้ามาเซซบ
เพื่อลี้หลบจบลงตรงนี้หนา
พรหมลิขิตขีดเส้นเกณฑ์ชะตา
ปรารถนาฟ้าอยู่ผู้เดียวดาย
“ ดอกฝิ่น ”
มิเห็นเงาตะวันมาอวดโฉม
มีแต่สายพิรุณปลอบประโลม
เพียรเหนี่ยวโน้มใจฉันให้รันทด
ขอร้อง...อย่าทำแบบนี้เลยฟ้า
เท่านี้ก็เหนื่อยล้าแรงแห้งหด
อยากเห็นฟ้าสีครามที่งามงด
พร้อมกับบทกวีที่ปลุกขวัญ
อยากเห็นสายรุ้งหวานพาดน่านฟ้า
มีนกกาบินวนบนรุ้งนั่น
พร้อมแดดอ่อนก่อนลาทิวาวัน
เผื่อว่าหัวใจฉัน...จะร่าเริง...
...ส.เชื้อจันทร์...
๒๘ ก.ค. ๕๕
ฟ้าวันนี้ที่มีสีเทาหม่น
ดั่งระคนบนเงาเขาปล่อยเหลิง
ฝันผวาพาขวัญล้วนกระเจิง
ร้อนเปลวเพลิงเผาสุมรุมเร้าทรวง
ฟ้าวันนี้มีน้ำตามาร้องไห้
รินร่ำไรรดหลั่งพลั้งเผลอห่วง
เหน็บหนาวเหลือเชื่อถ้อยร้อยลิ้นลวง
ยิ่งกว่าบ่วงบาศร้ายหมายชีวา
ฟ้าวันนี้หนีหน้ามาเซซบ
เพื่อลี้หลบจบลงตรงนี้หนา
พรหมลิขิตขีดเส้นเกณฑ์ชะตา
ปรารถนาฟ้าอยู่ผู้เดียวดาย
“ ดอกฝิ่น ”