รัตติกาล มาเยือน เตือนอีกหน
มืดมัวหม่น ฝนฟ้า พาไหวหวั่น
เหตุไฉน ไยเล่า เหงาทุกวัน
จะมีไหม ใครกัน จะหันแล
ยามดึกดื่น เดือนดาว ดูด้อยดับ
เคยระยับ ระยิบพร่าง ข้างไขแข
มาครานี้ มัวหม่น โดนรังแก
หนาวเย็นแท้ ซ้ำกาย ด้วยสายลม
มืดมัวหม่น ฝนฟ้า พาไหวหวั่น
เหตุไฉน ไยเล่า เหงาทุกวัน
จะมีไหม ใครกัน จะหันแล
ยามดึกดื่น เดือนดาว ดูด้อยดับ
เคยระยับ ระยิบพร่าง ข้างไขแข
มาครานี้ มัวหม่น โดนรังแก
หนาวเย็นแท้ ซ้ำกาย ด้วยสายลม
"ดิน"
ปรารถนาหาสิ่งใดที่ใจชอบ
จะสรรมอบปลอบปลุกให้สุขสม
เห็นน้ำตาบ่าปรางสองข้างพรม
ก็พลอยตรมระทมตามทุกยามแล
หากหาได้ใจจินต์ถวิลหา
ถึงสุดหล้าฟ้าเห็นดั่งเพ็ญแข
จะเอื้อมคว้ามามอบปลอบดวงแด
ขอเพียงแค่แม่สุขสันต์เท่านั้นพอ...
" บูรพ์ "
ยอมได้ไง... .ไม่ยอมแป๊หรอกอ้ายรพีฯ..
เอ๊ะ เสียงแปลก แกรกกราก ราวตากผ้า
"สกุณา" พิไร อันใดหนอ
ออดอ้อนหวาน ปานน้ำผึ้ง คลึงเสียงซอ
อย่ารีรอ "ฝอยทอง" น้องจัดการ
คนเป็นไข้ ไม่สบาย ทอดกายหลับ
สมองปรับ จูนคลื่น ลบขื่นสาร
ใยก่อกวน ล้วนคำ น่ารำคาญ
ขืนอยู่นาน ลูกหิน บินใส่เนอฯ
ปา"สกุณา" อย่าเข้าใจผิดเน่อ
"ฝอยทอง"แมวของน้องดินจ้า
รพีกาญจน์ 59