แลดาวเดือนเคลื่อนลับจนดับหาย
ทอแสงพรายปรายฟ้านภาหาว
กะพริบรับวับวิบ..ริบแสงดาว
มิสกาววาวฟ้าราตรีดำ
มองนัยน์ตาพาทีดนตรีรัก
วาดสลักอักษรวอนงามขำ
เรียงร่ายรสพจนารถพิลาศล้ำ
เป็นลำนำพร่ำพรอดออดอ้อนนาง
ถ้อยพิสุทธิ์ผุดผ่องตระกองมั่น
เรียงจำนรรจ์สัญญาเจียนฟ้าสาง
รูปหมอกเบาเงาย้อนสะท้อนจาง
หยดน้ำค้างรางเลือนมิเยือนใจ
ลมเย็นเยียบเฉียบฉิวตัดผิวเนื้อ
ร้อนรุ่มเจือเอื้อจรสั่นคลอนไหว
ทั้งเจ็บแสบแปลบรุมดั่งสุมไฟ
จากข้างในให้รวนรัญจวนทรวง
แต่คำซึ้งตรึงแน่นในแกนอก
จึงมิผกตกหล่นดลจิตหวง
รักสวาทบาดแดแท้ไม่ลวง
โอบพุ่มพวงดวงแก้วแน่แน่วจริง
จวบสายัณห์วันลาเพลาคล้อย
สุรีย์พลอยลอยต่ำสู่ค่ำผิง-
อกละมุนอุ่นแอบให้แนบอิง
เพลารุดหยุดนิ่งสิ่งสวยงาม...
ทอแสงพรายปรายฟ้านภาหาว
กะพริบรับวับวิบ..ริบแสงดาว
มิสกาววาวฟ้าราตรีดำ
มองนัยน์ตาพาทีดนตรีรัก
วาดสลักอักษรวอนงามขำ
เรียงร่ายรสพจนารถพิลาศล้ำ
เป็นลำนำพร่ำพรอดออดอ้อนนาง
ถ้อยพิสุทธิ์ผุดผ่องตระกองมั่น
เรียงจำนรรจ์สัญญาเจียนฟ้าสาง
รูปหมอกเบาเงาย้อนสะท้อนจาง
หยดน้ำค้างรางเลือนมิเยือนใจ
ลมเย็นเยียบเฉียบฉิวตัดผิวเนื้อ
ร้อนรุ่มเจือเอื้อจรสั่นคลอนไหว
ทั้งเจ็บแสบแปลบรุมดั่งสุมไฟ
จากข้างในให้รวนรัญจวนทรวง
แต่คำซึ้งตรึงแน่นในแกนอก
จึงมิผกตกหล่นดลจิตหวง
รักสวาทบาดแดแท้ไม่ลวง
โอบพุ่มพวงดวงแก้วแน่แน่วจริง
จวบสายัณห์วันลาเพลาคล้อย
สุรีย์พลอยลอยต่ำสู่ค่ำผิง-
อกละมุนอุ่นแอบให้แนบอิง
เพลารุดหยุดนิ่งสิ่งสวยงาม...