อยู่เมืองหลวงมันวายวุ่นคนจุ้นจ้าน
มีห้างร้านตึกใหญ่ใจสับสน
ทั้งอุกชิงวิ่งราวหนีความจน
ทั้งหลายหลากมากล้นคนตกงาน
ทั้งจี้ปล้นคนเข่นฆ่าดูน่าเบื่อ
มิช่วยเหลือเจือจุนหนุนลูกหลาน
อยู่เหมือนคนโดดเดี่ยวเที่ยวสำราญ
คนข้างบ้านไม่รู้จักไม่ทักทาย
สังคมคนในเมืองเห็นเป็นเช่นนี้
ขอหลีกลี้หนีห่างจากจางหาย
คิดผิดไหมขอห่างไกลความวุ่นวาย
ถึงจะตายอยู่ป่าเขาสำเนาไพร
ขึ้นเขาย้อยตั้งสำนักบำเพ็ญตบะ
ยอมสละทรัพย์สินดินหลายไร่
ขออยู่อย่างแบบพอเพียงเลี่ยงเมืองไกล
ฟังเสียงไก่ เสียงนกร้อง ..ก้องพนา
ริน ดอนบูรพา
๒๔ ก.ค. ๕๕
มีห้างร้านตึกใหญ่ใจสับสน
ทั้งอุกชิงวิ่งราวหนีความจน
ทั้งหลายหลากมากล้นคนตกงาน
ทั้งจี้ปล้นคนเข่นฆ่าดูน่าเบื่อ
มิช่วยเหลือเจือจุนหนุนลูกหลาน
อยู่เหมือนคนโดดเดี่ยวเที่ยวสำราญ
คนข้างบ้านไม่รู้จักไม่ทักทาย
สังคมคนในเมืองเห็นเป็นเช่นนี้
ขอหลีกลี้หนีห่างจากจางหาย
คิดผิดไหมขอห่างไกลความวุ่นวาย
ถึงจะตายอยู่ป่าเขาสำเนาไพร
ขึ้นเขาย้อยตั้งสำนักบำเพ็ญตบะ
ยอมสละทรัพย์สินดินหลายไร่
ขออยู่อย่างแบบพอเพียงเลี่ยงเมืองไกล
ฟังเสียงไก่ เสียงนกร้อง ..ก้องพนา
ริน ดอนบูรพา
๒๔ ก.ค. ๕๕
สมัครใจ ไปช่วย อยู่ด้วยปู่
ปลูกสาคู มันแกว ตามแนวป่า
ผักกาดขาว ราวรั้ว ฝักถั่วงา
เผือกกลอย กล้วยน้ำว้า สารพัด
หาบน้ำ.ตัก หักกิ่ง ก่อไฟหุง
ปัดมดยุง ริ้นไร ไต่ตอมกัด
ยามหลวงปู่ สู่สงบ นบไตรรัตน์
เพ่งวิปัสสน์ รอบวง เดินจงกรม
ตัดตวงน้ำ-ผึ้งป่า คาคบไม้
สมุนไพร ใบราก ถากเปลือกต้ม
รักษาท้อง ปวดถาน ขับดานลม
แสนสุขสม กลางป่า ชราวัย
รพีกาญจน์ 59
นักศึกษา พลัดหลง เข้าดงป่า
ผืนพนา กว้างนัก พักที่ไหน
บ้านหลังหนึ่ง กลางดง อยู่พงไพร
ขออาศัย สักนิด คิดว่าดี
แล้วเอ่ยออก บอกถาม ตามประสา
ฉันหลงมา อาศัย ได้ไหมนี่
ยินเสียงแว่ว แผ่วมา ตอบพาที
กับฤาษี อีกตน สองคนครอง
ผู้ชรา ทั้งคู่ ดูน่ารัก
ยิ้มทายทัก รับเยือน ขึ้นเรือนสอง
สุขอุรา ยิ่งนัก จักสมปอง
อยู่เที่ยวท่อง ล่องไพร ไม่กลับกรุง
ผืนพนา กว้างนัก พักที่ไหน
บ้านหลังหนึ่ง กลางดง อยู่พงไพร
ขออาศัย สักนิด คิดว่าดี
แล้วเอ่ยออก บอกถาม ตามประสา
ฉันหลงมา อาศัย ได้ไหมนี่
ยินเสียงแว่ว แผ่วมา ตอบพาที
กับฤาษี อีกตน สองคนครอง
ผู้ชรา ทั้งคู่ ดูน่ารัก
ยิ้มทายทัก รับเยือน ขึ้นเรือนสอง
สุขอุรา ยิ่งนัก จักสมปอง
อยู่เที่ยวท่อง ล่องไพร ไม่กลับกรุง
บ้านสวย"ดิน"ขออยู่ด้วยคน(คิดผิดป่าววว ไม่รู้สิ)
"ดิน"