นิทราเอย...เลยล่วงผ่านห้วงฝัน
หลับใต้จันทร์จนลุปัจจุสมัย
ตะวันเตือนแต่งแต้มอโณทัย
แจ้งแก่ใจว่ารุ่งรางสว่างแล้ว
ฟื้น..เสียงกรับขยับดังฟังคุ้นหู
นกเขาคูคลอขลุ่ยฆ้องหมุ่ยแผ้ว
ทั้งหวนโหยโชยโสตโคตรปี่แก้ว
วังเวงแว่ว...สลับ..สลัดเป็นปัจจุบัน
เพื่อนเอย..เชิญเพื่อนอย่าเชือนเฉย
ลมรำเพยเด็ดดมชมบุหลัน
เอาลำนำเกี่ยวดองคล้องสัมพันธ์
คือความฝันที่เป็นจริงอิงร้อยกรอง
เนิน จำราย
หลับใต้จันทร์จนลุปัจจุสมัย
ตะวันเตือนแต่งแต้มอโณทัย
แจ้งแก่ใจว่ารุ่งรางสว่างแล้ว
ฟื้น..เสียงกรับขยับดังฟังคุ้นหู
นกเขาคูคลอขลุ่ยฆ้องหมุ่ยแผ้ว
ทั้งหวนโหยโชยโสตโคตรปี่แก้ว
วังเวงแว่ว...สลับ..สลัดเป็นปัจจุบัน
เพื่อนเอย..เชิญเพื่อนอย่าเชือนเฉย
ลมรำเพยเด็ดดมชมบุหลัน
เอาลำนำเกี่ยวดองคล้องสัมพันธ์
คือความฝันที่เป็นจริงอิงร้อยกรอง
เนิน จำราย
ล่องลอยในความฝันสั่นสะทก
คล้ายดั่งนกไร้รังนั่งหม่นไหม้
ด้วยไร้ญาติขาดมิตรคู่ชิดใจ
สุดหวั่นไหวหวาดผวาอุราช้ำ
แม้เพื่อนเกลอเผลอใจให้ในฝัน
แค่บางวันรักรื่นคงชื่นฉ่ำ
อย่าลาร้างจางเลือนขอเพื่อนจำ
ทักแค่คำ..สองคำ หายช้ำทรวง
แซมค่ะ