เป็นเช้าอีกหนึ่งวันที่ฉันว่าง
เปิดหน้าต่างมองฝนบนลานหญ้า
เห็นหยดน้ำรินไหลจากชายคา
เมฆบนฟ้าพราวพร่างสีจาง..เทา
จากแนวป่าเชื่อมโยงโค้งฟ้าหม่น
ละอองฝนเปียกชุ่มปกคลุมเขา
บรรยากาศทึมทึมดูซึมเซา
ปลุกนิยามความเหงารุมเร้าใจ
ภาพเก่าเก่านึกย้อนก่อนจากบ้าน
มาทำงานต่างถิ่นแผ่นดินใหม่
ฝากชีวิตกลางดงป่าพงไพร
คิดถึงฉันหรือไม่เมื่อไกลกัน
ระยะทางพิสูจน์ม้าว่ากันไว้
ระยะใจเมื่อห่างเกรงร้างฝัน
รถเวลาหมุนล้อวันต่อวัน
ยิ่งไหวหวั่นเมื่อผ่านกาลเวลา
เพราะหน้าที่ทำให้เราไกลห่าง
ความอ้างว้างเกาะกินถวิลหา
คงเป็นที่ตัวฉันผิดสัญญา
สร้างปัญหาให้ช้ำทุกค่ำคืน
ตัดสินใจกลับบ้านแล้ววันนี้
บอกคนดีเราสองครองรักชื่น
แต่ฉันต้องระทมล้มทั้งยืน
มีหญิงอื่นกั้นกลางระหว่างเรา
เปรียว
เปิดหน้าต่างมองฝนบนลานหญ้า
เห็นหยดน้ำรินไหลจากชายคา
เมฆบนฟ้าพราวพร่างสีจาง..เทา
จากแนวป่าเชื่อมโยงโค้งฟ้าหม่น
ละอองฝนเปียกชุ่มปกคลุมเขา
บรรยากาศทึมทึมดูซึมเซา
ปลุกนิยามความเหงารุมเร้าใจ
ภาพเก่าเก่านึกย้อนก่อนจากบ้าน
มาทำงานต่างถิ่นแผ่นดินใหม่
ฝากชีวิตกลางดงป่าพงไพร
คิดถึงฉันหรือไม่เมื่อไกลกัน
ระยะทางพิสูจน์ม้าว่ากันไว้
ระยะใจเมื่อห่างเกรงร้างฝัน
รถเวลาหมุนล้อวันต่อวัน
ยิ่งไหวหวั่นเมื่อผ่านกาลเวลา
เพราะหน้าที่ทำให้เราไกลห่าง
ความอ้างว้างเกาะกินถวิลหา
คงเป็นที่ตัวฉันผิดสัญญา
สร้างปัญหาให้ช้ำทุกค่ำคืน
ตัดสินใจกลับบ้านแล้ววันนี้
บอกคนดีเราสองครองรักชื่น
แต่ฉันต้องระทมล้มทั้งยืน
มีหญิงอื่นกั้นกลางระหว่างเรา
เปรียว
จากไปนาน เกินทน จนหม่นหมอง
น้ำตานอง มองฝน บนฟ้าสาง
อยู่ต่างถิ่น ที่ใด ไม่เห็นทาง
ระยะห่าง สองเรา ไม่เท่ากัน
แม้ดาวเดือน เคลื่อนคล้อย ลอยลับฟ้า
สกุณา ร้องส่ง พะวงฉัน
เสียงหมาเห่า เคล้าเสียง สำเนียงพลัน
แม่ไก่นั้น ขันกระต๊าก ลงจากคอน
หยิบภาพเก่า ขาวดำ ช้ำใจนัก
อ่านสลัก หลังรูป จูบทอดถอน
อาลัยหา ทุกช่วง ห่วงอาทร
ถึงยามนอน อ้อนออด ตลอดคืน