คืนหนึ่งในแควน้อย
แพไม่ไผ่ไหลผ่านน่านน้ำน้อย
ระเรื่อยลอยหลามหลากจากป่าเปลี่ยว
ผ่านเงื้อมผาผงาดง้ำน้ำควั่นเกลียว
เกาะ แก่ง เรี่ยว เลี้ยวอ้อมค้อมคุ้งแคว
เดือนลอยทวนทิวฟ้าขึ้นมาแล้ว
ประกายแพรวพรายระยับจับกระแส
ไกลแสนไกลในสายหมอกระลอกแร
เรืองร่างแหหิ่งห้อยพร้อยไม้น้ำ
ในดงดึกลึกเร้นเห็นทิวเขา
เป็นเงาเงางำทับชระอับอ่ำ
หมู่ยางยูงยืนซึมอยู่คลึ้มคล้ำ
ยะเยียบฉ่ำเฉียบหนาว ณ ราวไพร
หริ่งเรไรร่ายไม้พิไรกล่อม
ประโลมอ้อมราตรีที่หลับใหล
นกละเมอเพ้อผวามาไกลไกล
แพไม้ไผ่ผ่านเลียบอย่างเงียบงัน
ภาพเช่นนี้นึกเห็นเป็นเพียงภาพ
ยังกำซาบซึ้งจิตยามคิดฝัน
คิดถึงคนเคยพร่ำเพ้อรำพัน
เมื่อไรกันคืนเช่นนี้จะมีมา
โอ้แม่กลองเมืองกาญจน์บันดาลจิต
ให้หวนคิดคืนครองแม่กรองจ๋า
อย่าหลงมนต์เมืองเขาเจ้าพระยา
เพี้ยง วาจาจงขลังยินยังเธอ
(ขอบคุณ: อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ )