ฟ้าเสกสรรค์สายัณห์สวัสดิ์หวาน
ณ ริมธารบ้านป่าหนอหน้าฝน
ดูแดดสายผายผ่านเกิดกาลกล
มองสายชลวนวกกอกกกวน
หอยขมเกาะเลาะริมดูอิ่มหนัก
ถึงได้ปักหลักเลนดูเป็นส่วน
ธรรมชาติพาดก่ายไว้หลายมวล
ขับขบวนชวนชูน่าดูเชียว
ดงหญ้าแพรกแหวกทรายยืดสายเส้น
ยื่นยอดเอนเส้นยาวราวด้ายเขียว
ถูกกระแสน้ำพัดโอ้ผลัดเกลียว
รากยังเหนี่ยวเกี่ยวกลืนในผืนทราย
มองกอกกรกหนอเป็นกอใหญ่
ที่เรียวใบแมงปอล้อแดดสาย
ปีกสองข้างบางสมโต้ลมปราย
ช่างหาญกล้าท้าทายสายลมแรง
จึงใช้พจน์บทกลอนสะท้อนภาพ
ระเริงราบโรยรินก่อนสิ้นแสง
แดดสายส่องห้องภาพฉาบสำแดง
อิทธิพลแดดแสร้งเข้าแฝงตัว
ดูเดชแดดแผดพอลอออุ่น
เหมือนเจิมจุนดุลยภาพอิ่มอาบทั่ว
ไม่เลือกเส้นเว้นสันส่องพันพัว
ไม่เลือกขั้วเลือกข้างอย่างใจคน
ดาวระดา
ณ ริมธารบ้านป่าหนอหน้าฝน
ดูแดดสายผายผ่านเกิดกาลกล
มองสายชลวนวกกอกกกวน
หอยขมเกาะเลาะริมดูอิ่มหนัก
ถึงได้ปักหลักเลนดูเป็นส่วน
ธรรมชาติพาดก่ายไว้หลายมวล
ขับขบวนชวนชูน่าดูเชียว
ดงหญ้าแพรกแหวกทรายยืดสายเส้น
ยื่นยอดเอนเส้นยาวราวด้ายเขียว
ถูกกระแสน้ำพัดโอ้ผลัดเกลียว
รากยังเหนี่ยวเกี่ยวกลืนในผืนทราย
มองกอกกรกหนอเป็นกอใหญ่
ที่เรียวใบแมงปอล้อแดดสาย
ปีกสองข้างบางสมโต้ลมปราย
ช่างหาญกล้าท้าทายสายลมแรง
จึงใช้พจน์บทกลอนสะท้อนภาพ
ระเริงราบโรยรินก่อนสิ้นแสง
แดดสายส่องห้องภาพฉาบสำแดง
อิทธิพลแดดแสร้งเข้าแฝงตัว
ดูเดชแดดแผดพอลอออุ่น
เหมือนเจิมจุนดุลยภาพอิ่มอาบทั่ว
ไม่เลือกเส้นเว้นสันส่องพันพัว
ไม่เลือกขั้วเลือกข้างอย่างใจคน
ดาวระดา
สายฝนพรำ ฉ่ำมา กอหญ้าเขียว
ข้าวใบเรียว เคียวโง้ง โค้งสับสน
เห็นแพงพวย ทอดยอด สอดปะปน
ละอองฝน โดนไอแดด แผดเผามา
มองสายชล ล้นหลั่ง พนังแตก
คล้ายหญ้าแพรก แทรกขึ้น ยืนจังก้า
ชูช่อชื่น แซมต้อยติ่ง ยิ่งงามตา
แมลงปอ บินถลา คว้าดมดอม
แสงแดดอ่อน ตอนเช้า ดูเข้าท่า
เดินเยาะย่าง มองหา ว่ากลิ่นหอม
กระดังงา ริมรั้ว กลัวใจตรอม
จึงไม่ยอม เอื้อมเด็ด ด้วยเข็ดทรวง