ผลึกแก้ว ฉบับ ปรับปรุง
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 02:35:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ผลึกแก้ว ฉบับ ปรับปรุง  (อ่าน 2074 ครั้ง)
sitang
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 46
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 129



« เมื่อ: 10 กรกฎาคม 2012, 04:12:PM »

ผลึกแก้ว "ปรับปรุง"
ฉันมองเห็นแววแก้วอัญมณีมีค่ามาจากเงาร่างศุภางค์เฉิดฉายของเธอ
เมื่อพิศดูแล้วก็มิอาจเปรียบเทียบประมาณว่าจักเสมอเสมือนความงามใดในแผ่นพื้นปฐพีตราบทั้งโลกนี้และโลกหน้า............
คงถึงกำหนดกงล้อกาลจักร์โคจรมาบรรจบครบห้วงเวลาแล้วกระมัง
ที่บรรดาลให้ชีวิตของฉันนั้นมิต้องดำรงสภาพอันโดดเดี่ยวเดียวดายเปลี่ยวเปล่าตามลำพัง ท่ามกลางเวิ้งว้างนภางค์ฟ้าฟากรัตติกาลอันมืดมิดสนิทตาเช่นนี้
และทุกท...ุกนาทีที่เภตราของพระพายกรายฝีพายผ่านห้วงมหาสมุทรคิมหันต์อันสาหัสสากัล จนสั่นสะท้านหวั่นไหวไปทุกธุลีชีพอณูชีวิตจิตวิญญาณของฉัน......ปานประหนึ่งจะแหลกลาญในบัดดล
บัดนี้เธอเคียงกายแนบข้างฉัน........
สอดประสานสายใยเกลียวสวาทอันลึกซึ้งถึงก้นบึ้งของห้วงวัฎฎะแลจิตวิญญาณทั้งปวงอันรอบราย จักมีปรารถนาอันใดอีกเล่าในชีวิตนี้............
ด้วยแววรุจีมีค่าเหนือคณานับนั้นได้สนิทแนบชิดในประกรองสวาทของฉันแล้ว มันจะเป็นเช่นนี้ตลอดไปใช่ไหม?
แลจักคงอยู่ตราชั่วอนันตกาลจนนานเท่านิรันดร์ใช่หรือเปล่า?
หาได้มีคำใดปรากฎพ้นจากปากเธอเลย..................
บรรยากาศยามราตรีที่แผ่นผ้าผืนที่กลางสีนิลกาฬอันไพศาลเบื้องโพ้นช่างหนาวนัก
มิมีถ้อยสำเนียงตอบกลับอันใดได้ให้สดับ...............
แลพลันชั่วเสี้ยวมารุตปราณ เธอเอ่ยถ้อยพจนาอันไพเราะลึกซึ้งแว่วหวานเหนือมธุรสอันใดในสกล......ว่านี่จักเป็นรักเดียวของฉัน ...ตราบเท่าเทียบที่ชีวีจักสิ้นตักษัย.....รักแรกและรักสุดท้าย......
เพียงวลีเท่านี้ดวงชีวีฉันก็ปลาบปลื้มชุ่มชื่นไปทั้งหฤทัยราวกับได้รับทิพยโปรยปรายจากสายอมฤตฉะนั้น
ประหนึ่งว่าทุกความสุขในทุกพื้นพิภพมาสยบอยู่ภายในดวงใจของเราโดยแท้........
โดยแม้แต่ว่าวาระแห่งรัตติกาลในบัดนี้ซึ่งแสงแห่งชวาลาอันมาจากอัจกลับแก้วแววรัศมีพรายของรัชนีกรหรือแม้กระทั้งเสี้ยวธุลีกระพริบพร่างแห่งดาริกานับเอนกอนันต์ก็ตามจะมิปรากฎดังเดิม
ผืนผ้าสีนิลกาฬวันนี้ช่างดูสะอาดหมดจดยิ่งนัก
แลรายรอบทุกสรรพสิ่งบรรยากาศแม้จักสุดแสนจะน่าสะพรึงหวาดหวั่นวิเวกวังเวง แต่ฉันก็สุขใจยิ่งนัก..............
หนาวนักหนาวจนสั่นสะท้านถึงอณูดวงปราณวิญญาณนี้เหลือเกิน จวนเจียนจะใกล้รุ่งทิวาอุษาสางเสียแล้ว.....กลิ่นกรุ่นละมุนละอองเป็นยองใยของหมอกม่านสีละม้ายคล้ายปุยสำลีเริ่มปรากฎ เธอยังคงเคียงข้างอยู่กับฉัน....เธอยังเคียงข้างฉันอยู่ใช่ไหม?
ใช่.............เธอตอบ ด้วยเสียงอันแผ่วเบาแต่ทว่าลึกซึ้งถึงก้นบึ้งของวิญญาณฉันนัก
กลิ่นกรุ่นอุ่นไอรุ่งเริ่มคละคลุ้งฟุ้งจรุงอบอุ่นกายขึ้น........ อีกมินานดวงตะวันจะสำแดงกายขึ้นพ้นแผ่นฟ้าอันเป็นผืนผ้าสีม่วงหม่นแล้ว.......
อนิจจา....ดวงแก้วอัญมณีอันเลอค่าเอนกอนันต์เหนือกว่าประสาใดจักใคร่พรรณนา........
ผลึกแก้วของฉัน...สุดที่รักของฉัน...ความหมายในชีวิตของฉัน...
ก็จางหาย จางหาย จางหาย .....และจางหายสลายไปในประกรองอ้อมกอดของฉัน พร้อมกับแสงแรกแห่งพระอรุณยามรุ่งทิวาขณะที่ผืนผ้าสีม่วงหม่นกำลังถูกชำระความหมองหมางจนหมดสิ้น กลายเป็นผ้าสีฟ้าสดใสแต่งแต้มด้วยละอองไอสีปุยนุ่นอันขาวบริสุทธิ์กับแสงสีดวงตะวันอันอบอุ่น แต่ดวงใจฉันเหน็บหนาวนัก บัดนี้ ฉันต้องมาพบว่าตัวเองต้องอ้างว้างเอกาอีกครั้ง
เธอ ผลึกแก้วอัญมณีของฉันไม่รักษาวาจา..............ปวดร้าวยิ่งนัก.........เจ็บปวดเหลือเกิน..........กระไรนี่ฉันต้องถูกเพลิงภัยไฟแผดกล้าเผาผลาญจากดวงตะวันจนสรีระกรอบไหม้อย่างทรมาน.......... แต่ขณะอีกด้านหนึ่งในดวงมาลย์ปราณชีวิตก็สุดแสนจะเหน็บหนาวจนชาชืดจืดจางลงแล้วกระนั้นหรือ
แล้วห้วงสำนึกสุดท้ายของใบหญ้าน้อยน้อยที่สิ้นหวังก็หลุดลอยเคว้งคว้างไปสู่กาลเวลา........ กาลเวลาอันมิอาจจะระบุได้ถึงความเศร้าโศกสัลย์แสนจาบัลย์ปานใด...........
คำสัญญา...คู่สัญญา...ความรัก...ความงดงาม...ความหมายของชีวิต...และหยาดแววแพรวน้ำค้างนั้นพลันสูญสลายจางหายไปเช่นกัน
น่าสงสารเหลือเกิน...น่าสงสารนัก...น่าสงสารยอดหญ้าเหลือเกิน
สิ่งงดงามความสุขดังสรวงสวรรค์นั้นมิมีแล้ว มีแต่ความจริง....
บัดนี้ขณะเวลาปัจจุบันยอดหญ้าใบน้อยน้อยก็ถูกเขาเหยียบย่ำอยู่ใต้บาทาอันเป็นอวัยวะเบื้องต่ำของนานาชีวิตอยู่..........
แลจักเป็นเช่นนี้อยู่เรื่อยไป.........
น่าสงสารเหลือเกิน............

พระจันทร์ ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๕ ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๔ ปี มะโรง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

panthong.kh, Music, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s