ฉันเกิดมา พิการ สังขารเสื่อม
มิอาจเอื้อม ไขว่คว้า ความผาสุก
เศร้าระทม ซมหมอง บนกองทุกข์
เรื่องสนุก ใดใด ไม่เคยรับ
แสนอ้างว้าง โดดเดี่ยว จิตเหี่ยวแห้ง
อ่อนเรี่ยวแรง ขมขื่น แม้ตื่น,หลับ
กระไรหนอ ชีวา ช่างอาภัพ
จมอยู่กับ คืน,วัน อันเดียวดาย
เป็นยาจก อับจน คนหยามหมิ่น
ขอเขากิน เรื่อยไป ไร้จุดหมาย
ค้ำไม้เท้า เปะปะ พยุงกาย
หิวกระหาย อิดโรย โหยเมื่อยล้า
ยามนี้ฉัน เจ็บป่วย จวนม้วยมอด
นอนก่ายกอด เศษผ้า อนาถา
ขาดอาหาร ประทัง ทั้งหยูกยา
จะอำลา ดับลง แล้วตรงนี้
ลมหายใจ สุดท้าย ใกล้จบสิ้น
แว่วได้ยิน เสียงอาทร ก่อนเป็นผี
คำสังเวช เมตตา กล่าวปรานี
จากผู้ที่ มุงล้อม ห้อมวิจารณ์
เมื่อตอนอยู่ ไปไหน ถูกไสส่ง
เจียนปลดปลง ดาหน้า มาสงสาร
แท้อยากรู้ อยากเห็น เป็นสันดาน
เคยให้ทาน แก่ใคร บ้างไหมคุณ
สุนทรวิทย์
มิอาจเอื้อม ไขว่คว้า ความผาสุก
เศร้าระทม ซมหมอง บนกองทุกข์
เรื่องสนุก ใดใด ไม่เคยรับ
แสนอ้างว้าง โดดเดี่ยว จิตเหี่ยวแห้ง
อ่อนเรี่ยวแรง ขมขื่น แม้ตื่น,หลับ
กระไรหนอ ชีวา ช่างอาภัพ
จมอยู่กับ คืน,วัน อันเดียวดาย
เป็นยาจก อับจน คนหยามหมิ่น
ขอเขากิน เรื่อยไป ไร้จุดหมาย
ค้ำไม้เท้า เปะปะ พยุงกาย
หิวกระหาย อิดโรย โหยเมื่อยล้า
ยามนี้ฉัน เจ็บป่วย จวนม้วยมอด
นอนก่ายกอด เศษผ้า อนาถา
ขาดอาหาร ประทัง ทั้งหยูกยา
จะอำลา ดับลง แล้วตรงนี้
ลมหายใจ สุดท้าย ใกล้จบสิ้น
แว่วได้ยิน เสียงอาทร ก่อนเป็นผี
คำสังเวช เมตตา กล่าวปรานี
จากผู้ที่ มุงล้อม ห้อมวิจารณ์
เมื่อตอนอยู่ ไปไหน ถูกไสส่ง
เจียนปลดปลง ดาหน้า มาสงสาร
แท้อยากรู้ อยากเห็น เป็นสันดาน
เคยให้ทาน แก่ใคร บ้างไหมคุณ
สุนทรวิทย์
ฉันจะกิน เข้าไป ยังไม่อิ่ม
อยากจะชิม ของดี มีหัวหมุน
นั่งจ้องมอง คนอื่น อยากมีลุ้น
หากเมตตา การุญ เจือจุนที
ฉันก็เปรียบ เฉียบเช่น วณิพก
ในหัวอก ปวดร้าว ทุกคราวนี่
ต้องอดมื้อ กินมื้อ ถือว่าดี
บุญเหลือที่ บรรเจิด เกิดเป็นคน
แม้ถูกเขา เย้ยหยัน ไม่หวั่นจิต
ขอเพียงสิทธิ์ ทีมี มิเคยสน
ด้วยเหตุว่า คุณค่า ความเป็นคน
อยู่ที่ผล กระทำ จงจำไว้