เคาะจังหวะประโคมคำโหมขับ
ด้านสมองรองรับสลับเรื่อง
จนปรากฎบทกลอนสลอนเรือง
ปรุงต่อเนื่องเนืองนิตย์ประดิษฐ์โปรย
ทั้งหอบฟ้าหาบฝนมาคนเคล้า
ทั้งเมฆเทาเผาผลาญส่งผ่านโผย
ยามอารมณ์ขมขื่นขาดชื่นโชย
ใช้อักษรกลอนโกยโรยรำพัน
ยามสุขสมคมคำนำขับเคลื่อน
ดูแสงเดือนเลื่อนลอยก็พลอยผัน
เป็นวิมานลานหล้าวิลาวัณย์
เปรียบเธอฉันนั้นเรียงเคียงเดือนดาว....
ขับคำโหม ประโคมรับ คำนับโหม
ขับประโลม โพยมดวง ช่วงกลางหาว
จึงขีดเขียน เพียรวาด ดื่นดาษดาว
เป็นเรื่องราว สกาวสุก ทุกค่ำคืน
หยิบทิวเมฆ เสกเรื่อง รังเรืองฟ้า
เขียนถึงหญ้า ล้าโบก ให้โลกชื่น
เพียงก้าวล่วง ห้วงภวังค์ ทุกครั้งคืน
บางครั้งฝืน ยืนมอง เพียงท้องฟ้า
ยามสุขสม ลมเรื่อ ก็เจือสุข
เมื่อยามทุกข์ ลมโรย ก็โหยหา
เขียนเล่าเรื่อง สิ่งรัก คือมรรคา
จำนำพา กวี วิถีกลอน
นับถืบ นับถือ
ก้าวแรกฯ...
ขับประโลม โพยมดวง ช่วงกลางหาว
จึงขีดเขียน เพียรวาด ดื่นดาษดาว
เป็นเรื่องราว สกาวสุก ทุกค่ำคืน
หยิบทิวเมฆ เสกเรื่อง รังเรืองฟ้า
เขียนถึงหญ้า ล้าโบก ให้โลกชื่น
เพียงก้าวล่วง ห้วงภวังค์ ทุกครั้งคืน
บางครั้งฝืน ยืนมอง เพียงท้องฟ้า
ยามสุขสม ลมเรื่อ ก็เจือสุข
เมื่อยามทุกข์ ลมโรย ก็โหยหา
เขียนเล่าเรื่อง สิ่งรัก คือมรรคา
จำนำพา กวี วิถีกลอน
นับถืบ นับถือ
ก้าวแรกฯ...