ตะวันคล้อย ลอยเลื่อน เคลื่อนลับฟ้า
หมู่นกกา ลาจร ย้อนคืนถิ่น
เสียงไก่ป่า ร้องดัง ฝังในจินต์
ให้ถวิล ครวญคร่ำร่ำพิไร
จั๊กจั่น เซ็งแซ่ กระแตเต้น
กลางดงเด่น ใกล้ค่ำ ย้ำไฉน
มองชะนี ห้อยโหน กระโจนไป
ร้องเรียกผัว ตามไต่ ในเถาวัลย์
ความมีดมน หม่นหมอง ต้องผวา
ลมโชยมา เย็นกาย มิวายหวั่น
คิดถึงคน จากไกล ใจผูกพัน
คะนึงนิจ คิดทุกวัน ใจสั่นคลอน
พันทอง
ตะวันลอยคล้อยเคลื่อนเยือนขอบฟ้า
ยามเย็นย่ำพนาป่าสิงขร
แว่วสำเนียงเสียงไพรในดงดอน
รู้สึกผ่อนคลายดีดนตรีไพร
เป็นบทเพลงเปล่งเสียงเคียงประสาน
ธรรมชาติบันดาลขับขานไข
บริสุทธิ์ผุดผ่องละอองไอ
ท่ามแมกไม้ขุนเขาลำเนาแดน
นั้นนกเขาขันคูเห็นคู่หนึ่ง
เคล้าคลอคลึงเคียงข้างช่างสุขแสน
แต่ตัวเราเปล่าเปลี่ยวเหลียวไร้แฟน
เดินอกแอ่นอ้างว้างกลางพนา
ยามเย็นย่ำพนาป่าสิงขร
แว่วสำเนียงเสียงไพรในดงดอน
รู้สึกผ่อนคลายดีดนตรีไพร
เป็นบทเพลงเปล่งเสียงเคียงประสาน
ธรรมชาติบันดาลขับขานไข
บริสุทธิ์ผุดผ่องละอองไอ
ท่ามแมกไม้ขุนเขาลำเนาแดน
นั้นนกเขาขันคูเห็นคู่หนึ่ง
เคล้าคลอคลึงเคียงข้างช่างสุขแสน
แต่ตัวเราเปล่าเปลี่ยวเหลียวไร้แฟน
เดินอกแอ่นอ้างว้างกลางพนา