กราบ“สุนทรภู่” ครูกวี ศรีรัตนโกสินทร์
กาพย์พระไชยสุริยา
สุรางคนางค์ ๒๘
ฯลฯ
วันนั้นจันทร มีดารากร เป็นบริวาร
เห็นดินสิ้นฟ้า ในป่าท่าธาร มาลีคลี่บาน ใบก้านอรชร
ฯลฯ
ฝึกหัดคัดอ่าน ดวงใจเบ่งบาน ธรรมชาติเว้าวอน
หลงคืนลืมวัน ดื่มด่ำดงดอน ไม่อนาทร สรรพสิ่งอื่นใด
นั่นคือเอกลักษณ์ แสดงประจักษ์ อักษรพลิ้วไหว
เหมือนนั่งร่มไม้ ใต้ดงพงไพร ตื่นตาเร้าใจ อารมณ์โบยบิน
เสภา ขุนช้างขุนแผน ตอนกำเนิดพลายงาม
ฯลฯ
เหล่ามิ่งไม้ไทรโศกอยู่ริมห้วย ลมช่วยหล่นลอยกระแสสินธุ์
น้ำใสแลซึ้งถึงพื้นดิน ฟุ้งกลิ่นสุมามาลย์บานระย้า
สัตตบุษย์บัวแดงขึ้นแฝงฝัก พันธุ์ผักพาดผ่านก้านบุปผา
แพงพวยพุ่งพาดพันสันตะวา ลอยคงคาทอดยอดไปตามธาร
ฯลฯ
โสตสัมผัสอักษรอันอ่อนนุ่ม
ครั้งเกาะกลุ่มขยับอาขยาน
อยู่ ม.ต้น ร้องนำหน้ากระดาน
เสียงประสานลั่นห้องก้องกมล
หลายสิบปีผ่านมาตีตราจำ
ทบทวนย้ำย้อนรอยหลายร้อยหน
เขียนคำกลอนอึกอักชักวกวน
กลับไปค้นเทียบเคียงเฝ้าเมียงมอง
คราวครบรอบกำเนิดกาลท่านอีกหน
น้อมกมลยกหัตถังขึ้นทั้งสอง
อาราธนาบารมีช่วยคุ้มครอง
เรียงร้อยกรองให้จำเพาะเสนาะล้ำ
ถ้อยอัตคัดขัดข้องศิษย์ร้องขอ
วอนครูพ่อช่วยอุ้มสมให้คมขำ
เพียรประดิษฐ์คิดประดอยร้อยประคำ
แนบลำนำเชิดบูชิตสถิตทรวง
เนิน จำราย
(ย้ายมาจาก "แฟนพันธุ์แท้สุนทรภู่" เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ)
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน |
25 พฤศจิกายน 2024, 03:04:AM | |||
|
ผู้เขียน | หัวข้อ: ระลึกถึงครูกลอน (อ่าน 17699 ครั้ง) |
| ||||||||||
Email: