ขอขอบคุณ..คุณพี่ระนาดเอก มา ณ ที่นี้.. ที่นำมาแบ่งปันให้กันค่ะ
อยากบอกว่าชอบมากจังเลยโดยเฉพาะ กลอนบทนี้ค่ะ...
...แล้วสอนว่า อย่าไว้ ใจมนุษย์
มันแสนสุด ลึกล้ำ เหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์ พันเกี่ยว ที่เลี้ยวลด
ก็ไม่คด เหมือนหนึ่งใน น้ำใจคน...
ขอบคุณค่ะ
รัตนาวดี
อยากบอกว่าชอบมากจังเลยโดยเฉพาะ กลอนบทนี้ค่ะ...
...แล้วสอนว่า อย่าไว้ ใจมนุษย์
มันแสนสุด ลึกล้ำ เหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์ พันเกี่ยว ที่เลี้ยวลด
ก็ไม่คด เหมือนหนึ่งใน น้ำใจคน...
ขอบคุณค่ะ
รัตนาวดี
ขอบขอบคุณ พี่ระนาดเอกด้วยเช่นกัน
ปู่...รินชอบบทนี้ ตอนที่ "พลายงามยกทัพไปเชียงใหม่"...ครับ
" ถ้าแม้นแก้วแววตามาด้วยพี่ จะช่วยชี้ชมไม้ไพรพฤกษา
คิดพลางเดินทางตามทางมา ข้ามท่าเขินเขาลำเนาธาร
แลเห็นเขาเงาเงื้อมชะง่อนชะโงก เป็นกรวยโกรกน้ำสาดกระเซ็นซ่าน
โครมครึกกึกก้องท้องพนานต์ พลุ่งพล่านมาแต่ยอดศิขริน
เป็นชวากวุ้งเวิงตะเพิงพัก แง่ชะงักเงื้อมชะง่อนล้วนก้อนหิน
บางใสสดหยดย้อยเหมือนพลอยนิล บางเหมือนกลิ่นพู่ร้อยห้อยเรียงราย
ตรงตะพักเพิงผาศิลาเผิน ชะงักเงินเงื้อมชะงอกชะแง้หงาย
ที่หุบห้วยเหวหินบิ่นทะลาย เป็นวุ้งโว้งโพรงพรายดูลายพล้อย
บางเป็นยอดกอดกายตะเกะตะกะ ตะขรุตะขระเหี้ยนหักเหมือนหินห้อย
ขยุกขยิกหยดหยอดเป็นยอดย้อย บางแหลมลอยเหลื่อมสลับระยับยิบ
บางงอกเง้าเป็นเงี่ยงบางเกลี้ยงกลม บ้างโปปมเป็นปุ่มตะปุบตะปิบ
บ้างปอดแป้วเป็นภูดูลิบลิบ โล่งตะลิบแลตลอดยอดศิขริน"
สุนทรภู่ : ตอนพลายงามยกทัพไปเชียงใหม่
ครูสอนให้จำสมัยเรียน หากจำผิดพลาดบ้างขออภัย
ช่วยเสริมเติมเต็มด้วย
ขอขอบคุณคุณครูบังคับให้ท่องจำครับ
ริน ดอนบูรพา
๒๒ มิ.ย. ๕๕