คนไกลถิ่น นี้หนอ ยังรอคอย...
เช้าสินะ ระฆัง ดังหง่างเหง่ง
ช่างวังเวง หัวใจ ให้เหงาหงอย
ปลุกภวังค์ หลังตื่น เตรียมขึ้นดอย
เข้าสวนสอย มะม่วงโต ส่งโกดัง
มิชายตา หน้าคอมพ์ ยอมตรมจิต
หวนถึงมิตร ดังบ้า ละล้าหลัง
เช้าไม่เขียน เพียรอ่าน มานจริงจัง
หรือลงนั่ง ตอบความ เพื่อนถามมา
เลิกพนัน ไพ่หวย มวยบอลเหล้า
เลิกมึนเมา บุหรี่ ที่ยากกว่า
ยังถือสัจ ตัดบาศก์ ขาดอุรา
พจนา ละวัน ฉันคร่ำครวญ
กลับมาแล้ว คนดี จ๊ะที่รัก
เอ่ยทายทัก เหงื่อพราก จากบ้านสวน
มอบให้เจ้า เย้าหยอก..ดอกลำดวน
เครื่องชี้ชวน ว่าอยู่ คู่กับดิน
รพีกาญจน์ 59
ผ้าขนหนู ชุบน้ำ ขยำหมาด
บรรจงปาด หยาดย้อย เหงื่อพลอยสิ้น
มะลิลอย น้ำเย็น เป็นอาจิณ
ใส่ถวิล ห่วงถาม ตามอาทร
เอื้อไมตรี น้องด้วย ลำดวนดง
ค่อยบรรจง ลงดอม พะยอมก่อน
ไปอาบน้ำ พี่ขา อย่าเว้าวอน
ไหลเปียกปอน เหงื่อไคล ได้วางวาย
"ดิน"จัดเตรียม แปรงสีฟัน ขันสบู่
น้ำเต็มอยู่ ทุกอย่าง มิจางหาย
ผ้าเช็ดผม พรมแป้ง เครื่องแต่งกาย
ที่บรรยาย มาทั้งหลาย เมื่อไหร่จริง.
บรรจงปาด หยาดย้อย เหงื่อพลอยสิ้น
มะลิลอย น้ำเย็น เป็นอาจิณ
ใส่ถวิล ห่วงถาม ตามอาทร
เอื้อไมตรี น้องด้วย ลำดวนดง
ค่อยบรรจง ลงดอม พะยอมก่อน
ไปอาบน้ำ พี่ขา อย่าเว้าวอน
ไหลเปียกปอน เหงื่อไคล ได้วางวาย
"ดิน"จัดเตรียม แปรงสีฟัน ขันสบู่
น้ำเต็มอยู่ ทุกอย่าง มิจางหาย
ผ้าเช็ดผม พรมแป้ง เครื่องแต่งกาย
ที่บรรยาย มาทั้งหลาย เมื่อไหร่จริง.
"ดิน"
ขอเพียงน้ำ ธรรมดา ล้างหน้าเช็ด
เพื่อคลายเหน็ด เหนื่อยผ่อน อ่อนล้ายิ่ง
ยกขันดื่ม ปลื้มใจ ให้ประวิง
สองเรานิ่ง ส่งมาน ประสานตา
ก้มหัวลง บรรจงจูบ ลูบมือน้อย
ยกขึ้นค่อย เอิบอาบ ทาบใบหน้า
ยามทุกข์โศก โรครุม กลุ้มกายา
มีน้องมา ประดับ กับชีวี
อาบน้ำท่า ห้าขัน เหงื่อมันสิ้น
เรารีบกิน ข้าวต่อ พออิ่มหมี
อุ๊ย ไหล่ปวด นวดขา ขึ้นมาที
พอหายดี ดับไฟ ได้นิทรา
รพีกาญจน์ 59