วิเวกแผ่ว แว่วเสียง สำเนียงเหงา
เพียงรินรด หยดเบาเบา สำเนาเสียง
เป็นม่านมุก ขมุกกราย ลงรายเรียง
ยินสำเนียง เสียงกาฬ ม่านพิรุณ
ทีละหยด รด-หลั่ง เป็นถั่งโถม
มาชะโลม รดโลก ที่โศกสูญ
มาชะล้าง น้ำตา แห่งอาดูร
ที่พรากพร่า อาบอุ่น ละมุนปรางค์
แล้วก็ดับ สรรพสิ่ง ดูนิ่งเรียบ
ให้เวิ้งว้าง ว่างเงียบ เปรียบสิ้นหวัง
ให้ทับถม จมใจ ในภวังค์
ให้นิ่งฟัง ความเหงา เล้าโลมใจ
พบเพียงเงา เปล่าดาย ที่ปลายห้อง
ที่เรียกร้อง แท้จริง คือสิ่งใหน
หยาดน้ำตา เคยมี ที่แห้งไป
หรือว่าใจ ยังอาลัย ในพิรุณ
ที่หล่นเกลื่อน ลางเลือน เหมือนยังฝัง
ฉากความหลัง ยังคุ ระอุอุ่น
จึงเลื่อนลอย คอยแสง แห่งอรุณ
มาโลมไล้ ให้ละมุน ในอุ่นไอ
[/color]เพียงรินรด หยดเบาเบา สำเนาเสียง
เป็นม่านมุก ขมุกกราย ลงรายเรียง
ยินสำเนียง เสียงกาฬ ม่านพิรุณ
ทีละหยด รด-หลั่ง เป็นถั่งโถม
มาชะโลม รดโลก ที่โศกสูญ
มาชะล้าง น้ำตา แห่งอาดูร
ที่พรากพร่า อาบอุ่น ละมุนปรางค์
แล้วก็ดับ สรรพสิ่ง ดูนิ่งเรียบ
ให้เวิ้งว้าง ว่างเงียบ เปรียบสิ้นหวัง
ให้ทับถม จมใจ ในภวังค์
ให้นิ่งฟัง ความเหงา เล้าโลมใจ
พบเพียงเงา เปล่าดาย ที่ปลายห้อง
ที่เรียกร้อง แท้จริง คือสิ่งใหน
หยาดน้ำตา เคยมี ที่แห้งไป
หรือว่าใจ ยังอาลัย ในพิรุณ
ที่หล่นเกลื่อน ลางเลือน เหมือนยังฝัง
ฉากความหลัง ยังคุ ระอุอุ่น
จึงเลื่อนลอย คอยแสง แห่งอรุณ
มาโลมไล้ ให้ละมุน ในอุ่นไอ