"ปริศนา แห่ง สัญญาณสัญญา"
พัดพาเมฆหมอก ไหลออกลอยเลื่อน
เมฆหมอกลอยเลื่อน เคลื่อนผ่านนภา
ทุกสิ่งมิทาน ต่อกาลเวลา
คล้ายดั่งเวลา ไหลมาไหลไป
คล้ายดั่งวาจา สัญญาแสนหวาน
เธอมาขับขาน สัญญาณสัญญา
แต่ว่าพวกเรา เข้าใจผ่านตา
เข้าใจผ่านตา ล้ำค่ากว้างไกล
ดื่มด่ำดุจตรึง ไว้ในจิตรา
กล่าวขานวาจา สัญญาผ่านใจ
เวลาที่ซึ่ง พวกเราสัญญา
ที่เราสัญญา วาจาร่วมใจ
รวมให้ลึกซึ้ง ลึกสุดอุรา
ก็เคยสัญญา กันมามากมาย
เชิญทุกชีวี ที่มีปัญญา
บัดนี้เวลา มาถึงแล้วเอย
พัดพาเมฆหมอก ไหลออกลอยเลื่อน
เมฆหมอกลอยเลื่อน เคลื่อนผ่านนภา
ทุกสิ่งมิทาน ต่อกาลเวลา
คล้ายดั่งเวลา ไหลมาไหลไป
คล้ายดั่งวาจา สัญญาแสนหวาน
เธอมาขับขาน สัญญาณสัญญา
แต่ว่าพวกเรา เข้าใจผ่านตา
เข้าใจผ่านตา ล้ำค่ากว้างไกล
ดื่มด่ำดุจตรึง ไว้ในจิตรา
กล่าวขานวาจา สัญญาผ่านใจ
เวลาที่ซึ่ง พวกเราสัญญา
ที่เราสัญญา วาจาร่วมใจ
รวมให้ลึกซึ้ง ลึกสุดอุรา
ก็เคยสัญญา กันมามากมาย
เชิญทุกชีวี ที่มีปัญญา
บัดนี้เวลา มาถึงแล้วเอย
....ปริศนา ทำไมช่างแยะ เราต้องนั่งแกะ แคะไค้ไหลมา
อ่านบทกลอน ยอกย้อนวาจา โยกย้ายซ้ายขวา ซ้ำมาย้ำไป
อันตัวเรา มัวเมาเฝ้าเขียน อักษรหมุนเวียน เปลี่ยนตามอุรา
ข้านั่งเขียน หมุนเวียนวิญญา เต้บใดกันหนา เขียนมาผ่านใจ
....จะมีใคร รู้บ้างไหมหนอ ตัวเราเฝ้ารอ ร้อทุกเวลา
เราเฝ้ารอ อะไรกันหว่า แล้วนี่ตัวข้า จะมาถามใคร
แล้วต้องรอ กันไปถึงไหน รอถึงเมื่อไหร่ จึงมีใครมา
กราซิบบอก กันที่ข้างหู ให้เราได้รู้ ฟามลับแห่งฟ้า
....เจตนา ที่ฟ้าวางไว้ จะมีผู้ใด เข้าใจไหมหว่า
ว่าพวกเรา เหล่าผู้ค้นหา ต้องรวมวิญญา ค้นหาร่วมกัน
รวมหัวใจ เราให้เป็นหนึ่ง เมื่อรวมลึกซึ้ง จึงไหลไปมา
จิตวิญญา แห่งความรอบรู้ จึงไหลออกสู่ เหล่าผู้แสวงหา
....ลุกขึ้นเถิด พี่น้องญาติเพื่อน อย่ามัวนั่งเปื้อน กับพื้นขื่นขม
รีบตื่นเถิด ผู้คนตรอมตรม บนพื้นขื่นขม ตรมจิตติดกรรม
ต้องวนเวียน ชดใช้เวรกรรม ทุกชาติก่อซ้ำ ย้ำเตือนเลือนราง
ตื่นรู้เถิด ทุกจิตที่ว่าง ข้าขอกล่าวอ้าง ตามคำสัญญา
กระต่ายป่า ข้างวัด
"เริ่มเขียน ตอนสายสาย เขียนได้ไว ขึ้นทุกที
เขียนได้ คล้องจองดี ตัวข้านี้ สุขอุรา"[/size]