จากมุมหนึ่ง ของหัวใจ ในสี่ห้อง
จากมุมมอง ของตน บนความหมาย
จากวันนี้ ที่รู้สึก สำนึกกาย
จากเริ่มต้น จนปลาย..คล้ายวังเวง
เหมือนเอื้อมคว้า เพียงลม ไม่สมหวัง
เหมือนประดัง ความเศร้า เข้าข่มเหง
เหมือนดั่งวน แอ่งกรรม ไร้ยำเกรง
เหมือนละเลง แต่เศร้า เป็นเจ้าครอง
ในภาวะจำยอม ต้องน้อมรับ
ถูกกระชับ ด้วยเหตุ อาเพศหมอง
เกินจะดิ้นหลุดพ้น บนครรลอง
เติมสนองหมองหม่น บนหัวใจ
แหละวันนี้ มุมหนึ่งรำพึงเศร้า
อีกหลายมุม นั่นเล่า เจ้าขานไข
มีมุมสุข อยู่บ้าง หรืออย่างไร
เหลือบ้างไหม ไม่กลุ้ม เหมือนมุมนี้
ต้องคอยหวัง คอยสร้าง ทางแห่งสุข
แม้ล้มลุก คลุกกาย ไม่หน่ายหนี
กัดฟันสู้ ดูแสง แห่งรวี
อาจจะมี มุมส่อง ให้มองทาง
คือชีวิต ต้องอยู่ เพื่อสู้ฝัน
ปักใจมั่น ฟันฝ่า ผ่าขวากขวาง
เดินสู่หมายปลายสมชื่นชมนาง
ฟ้ากระจ่าง อย่างอรุณ..อุ่นอารมณ์
จากมุมมอง ของตน บนความหมาย
จากวันนี้ ที่รู้สึก สำนึกกาย
จากเริ่มต้น จนปลาย..คล้ายวังเวง
เหมือนเอื้อมคว้า เพียงลม ไม่สมหวัง
เหมือนประดัง ความเศร้า เข้าข่มเหง
เหมือนดั่งวน แอ่งกรรม ไร้ยำเกรง
เหมือนละเลง แต่เศร้า เป็นเจ้าครอง
ในภาวะจำยอม ต้องน้อมรับ
ถูกกระชับ ด้วยเหตุ อาเพศหมอง
เกินจะดิ้นหลุดพ้น บนครรลอง
เติมสนองหมองหม่น บนหัวใจ
แหละวันนี้ มุมหนึ่งรำพึงเศร้า
อีกหลายมุม นั่นเล่า เจ้าขานไข
มีมุมสุข อยู่บ้าง หรืออย่างไร
เหลือบ้างไหม ไม่กลุ้ม เหมือนมุมนี้
ต้องคอยหวัง คอยสร้าง ทางแห่งสุข
แม้ล้มลุก คลุกกาย ไม่หน่ายหนี
กัดฟันสู้ ดูแสง แห่งรวี
อาจจะมี มุมส่อง ให้มองทาง
คือชีวิต ต้องอยู่ เพื่อสู้ฝัน
ปักใจมั่น ฟันฝ่า ผ่าขวากขวาง
เดินสู่หมายปลายสมชื่นชมนาง
ฟ้ากระจ่าง อย่างอรุณ..อุ่นอารมณ์
"บ้านริมโขง"
๑๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๕