เมื่อปีนั้นฉันหัดกัมมัฏฐาน
เจ็ดวันนานเหมือนเจ็ดปีฉันนี้บ่น
ตื่นตีสามทำวัตรเช้าช่างทุกข์ทน
กายหมองหม่นด้วยชินแต่กินนอน
คืนสุดท้ายพระพานั่งสมาธิ
ฝึกสติเดินจงกรมท่านบ่มสอน
คืนนี้ท่านจัดหนักอดพักนอน
ร่างนี้ร้อนลนลานพุ่งพล่านพัง
นี่โยมเอ๋ยท่านเอ่ยปริศนา
อันชีวาว่ามนุษย์ผุดเนื้อหนัง
เคยคิดไหมเหตุใดในภวังค์
ถึงต่อตั้งร่างกายกลายเป็นคน
ฉันก็เอ่อละเมออยู่ไม่รู้สึก
จะตรองตรึกก็ง่วงเหงาหาวฉงน
พยายามย้ำคิดพินิจมนตร์
ยังวกวนงงงวยด้วยราคี
ท่านเทศน์พลางชี้นิ้วที่ทิวไม้
รังมดแดงแหล่งใหญ่ในไพรศรี
มดนับล้านล้วนหวังว่าชาตินี้
หนึ่งชีวีขอเป็นคนสักหนเทอญ
ด้วยบาปกรรมทำมดชดใช้เหตุ
สู่ขอบเขตข้องลำบากยากขัดเขิน
บาปบุญนำน้อมสัตว์ทุกข์หรือสุขเพลิน
จงเจริญวิปัสสนาค้นคว้าธรรม
เจ็ดวันนานเหมือนเจ็ดปีฉันนี้บ่น
ตื่นตีสามทำวัตรเช้าช่างทุกข์ทน
กายหมองหม่นด้วยชินแต่กินนอน
คืนสุดท้ายพระพานั่งสมาธิ
ฝึกสติเดินจงกรมท่านบ่มสอน
คืนนี้ท่านจัดหนักอดพักนอน
ร่างนี้ร้อนลนลานพุ่งพล่านพัง
นี่โยมเอ๋ยท่านเอ่ยปริศนา
อันชีวาว่ามนุษย์ผุดเนื้อหนัง
เคยคิดไหมเหตุใดในภวังค์
ถึงต่อตั้งร่างกายกลายเป็นคน
ฉันก็เอ่อละเมออยู่ไม่รู้สึก
จะตรองตรึกก็ง่วงเหงาหาวฉงน
พยายามย้ำคิดพินิจมนตร์
ยังวกวนงงงวยด้วยราคี
ท่านเทศน์พลางชี้นิ้วที่ทิวไม้
รังมดแดงแหล่งใหญ่ในไพรศรี
มดนับล้านล้วนหวังว่าชาตินี้
หนึ่งชีวีขอเป็นคนสักหนเทอญ
ด้วยบาปกรรมทำมดชดใช้เหตุ
สู่ขอบเขตข้องลำบากยากขัดเขิน
บาปบุญนำน้อมสัตว์ทุกข์หรือสุขเพลิน
จงเจริญวิปัสสนาค้นคว้าธรรม