เดินทางผ่าน..กาลนทีที่ล้นหลาก
เพื่อฝังฝากซากเปื่อยอันเหนื่อยหนัก
ในอ้อมอิงผิงดาวราวเพิงพัก
พิงพำนักสลักนาม..ความผูกพัน
ยากเอื้อนเอ่ยเผยนิยามของความคิด
สิ่งถูกผิดสะกิดห้ามจงปรามฝัน
เสน่หาอาลัย...ไร้รำพัน
ถ้อยจำนรรจ์..พลันหยุด..สดุดลง
เฝ้ายืนมองท้องฟ้าคราคิดถึง
ลมคำนึงรำเพยผ่านดังสาส์นส่ง
ความรู้สึกลึกล้ำย้ำจำนง
ได้โปรดจงดำรงไว้..ในใจเรา
ที่เป็นอยู่รู้แท้...แม้ไม่เที่ยง
ขืนหลีกเลี่ยงต่อไปใจก็เศร้า
เสียงกระซิบลาแล้วอันแผ่วเบา
เมื่อสองเงาเลือนหาย..นอกสายตา
เหมือนสร้างบาปภาพลวงแล้วทวงกลับ
บรรจงจับอารมณ์ผุ..ด้วยมุสา
ลมหายใจรวยรินกับวิญญา
ใช้ดวงจิตพิจารณา...ดั่งวารี
เมื่อรินไหลไม่หวนจะทวนหา
เลื่อมธารากระพริบเริ่มริบหรี่
สู่ลึกเชี่ยวเกลียววนชลธี
คงมิมีหวนคืน..ให้ชื่นใจ
หลังอาทิตย์อัสดง..ลงลับแสง
คงสิ้นแรงพร้อมกับการหลับไหล
แลไม่รู้จะตื่นเพื่ออื่นใด?
จะหาใคร?..ปิดตาเวลาตาย
ค่อยค่อยปล่อยเสี้ยวเศษกิเลสสร้าง
พยุงร่างขึ้นกองฟอนก่อนจะสาย
ปฏิบัติธรรมหาทางก่อนวางวาย
"สุคติภูมิ"คือบั้นปลายเมื่อตายลง
..... ๑๐๙๑๓ .....สุคติภูมิ มีดังนี้..๑.มนุสสภูมิ ๒.จาตุมหาราชิกา ๓.ดาวดึงส์ ๔.ดุสิต ๕.ยามา ๖.นิมมานรดี ๗.ปรมิตวสวัตตี
.