บนรอยทรายหายตามยามคลื่นสาด
สุดอนาถรอยรักยังถักต่อ
ถักด้วยใจด้วยหวังนั่งพะนอ
เกินจะกรอด้ายกลับแม้ลับลา
วันปีผ่านกาลสมัยให้แลเห็น
ดุจดั่งเช่นวันเก่าเฝ้าห่วงหา
เมื่อผ่านไปวันใหม่ใกล้เข้ามา
เปลี่ยนแต่หน้าวันที่นี้ร่ำไป
แต่ตัวเราตัวคนหาพ้นผ่าน
ยังซมซานรานร้าวหนาวสั่นไหว
อยากจะลืม กลับจำ ช่างร่ำไร
แสนชังใจตนเอง..วังเวงพา
ถึงคิดได้พูดได้คล้ายทำยาก
แผลเป็นฝากมากรอยคอยผวา
เหมือนผ้าขาวมีรอยคล้อยเวลา
เนิ่นนานช้าเพียงใดไม่ลบเลือน
*ต้องเก็บไว้ ให้เห็น เช่นชมชื่น
แม้ขมขื่น กลืนกล้ำ ทำเสมือน
เป็นสิ่งดี มีค่า น่ายลเยือน
ไว้เป็นเพื่อน เตือนตน คนเคยตรม
รอยอดีต รีดใจ ให้แผ่วฝ่อ
รอยพะนอ รอคืน ชื่นสุขสม
รอยอาลัย ให้เห็น เช่นสายลม
รอยชื่นชม ถมแล้ว..แก้วบาดทรวง*
สุดอนาถรอยรักยังถักต่อ
ถักด้วยใจด้วยหวังนั่งพะนอ
เกินจะกรอด้ายกลับแม้ลับลา
วันปีผ่านกาลสมัยให้แลเห็น
ดุจดั่งเช่นวันเก่าเฝ้าห่วงหา
เมื่อผ่านไปวันใหม่ใกล้เข้ามา
เปลี่ยนแต่หน้าวันที่นี้ร่ำไป
แต่ตัวเราตัวคนหาพ้นผ่าน
ยังซมซานรานร้าวหนาวสั่นไหว
อยากจะลืม กลับจำ ช่างร่ำไร
แสนชังใจตนเอง..วังเวงพา
ถึงคิดได้พูดได้คล้ายทำยาก
แผลเป็นฝากมากรอยคอยผวา
เหมือนผ้าขาวมีรอยคล้อยเวลา
เนิ่นนานช้าเพียงใดไม่ลบเลือน
*ต้องเก็บไว้ ให้เห็น เช่นชมชื่น
แม้ขมขื่น กลืนกล้ำ ทำเสมือน
เป็นสิ่งดี มีค่า น่ายลเยือน
ไว้เป็นเพื่อน เตือนตน คนเคยตรม
รอยอดีต รีดใจ ให้แผ่วฝ่อ
รอยพะนอ รอคืน ชื่นสุขสม
รอยอาลัย ให้เห็น เช่นสายลม
รอยชื่นชม ถมแล้ว..แก้วบาดทรวง*
"บ้านริมโขง"
๗ มิถุนายน ๒๕๕๕
*กลบท