Re: กลอนสิ้นมนต์
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 12:17:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: กลอนสิ้นมนต์  (อ่าน 7769 ครั้ง)
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« เมื่อ: 03 มิถุนายน 2012, 08:25:PM »



ลมพัดมาจากไหนใบไม้พลิ้ว
พารักลิ่วมาให้บ้างไหมหนอ
ในหัวอกคนเหงาเฝ้าแต่รอ
เริ่มทดท้อคอยหวานนานเกินควร

ดวงจันทร์เอ๋ยเคยสองเรามองอยู่
จะรับรู้หรือเปล่าเขาไม่หวน
มีเพียงเราเงียบเหงาเฝ้าแต่ครวญ
แสงจะนวลหรือไม่..ไม่สำคัญ

ในเมื่อไม่มีเขาเฝ้าปลอบจิต
เพลงชีวิตร่ายโศลกความโศกศัลย์
ร้อนหนาวสูดหายใจไปวันวัน
เย็นค่ำพรั่นระทึกจนดึกเยือน

ทุกทุกความรู้สึกจารึกอยู่
ลองอ่านดูเท่าใดก็ไม่เหมือน
มิได้ครึ่งสักนิดคล้ายบิดเบือน
รักติดเตือนตรึงใจยิ่งใหญ่นัก

บางครั้งที่ทบทวนหวนรำลึก
นั่งก็นึกนอนก็ครวญหวนตระหนัก
คำเก่าเก่าอดีตล้วนหวนมาทัก
คิดถึงรักใจป่วนหวนคำนึง

ฉันอาจพลั้งพลาดไปเลยไกลจาก
คงผิดมากอนันต์จึงปั้นปึ่ง
กลอนสิ้นมนต์วันใด..เธอไม่ซึ้ง
แล้วก็ถึงวันนั้นคือวันนี้

ดาว อาชาไนย

รำพันซึ้ง ตรึงจิต ด้วยพิษรัก
ประสานถัก ถ้อยเคียง เรียงเต็มที่
อักษรา พาฝัน ทุกขั้นมี
ปักฤดี อ่อนหวาน แสนซ่านทรวง

จินตาการ ผ่านฟ้า นภาแพ้ว
ดั่งดวงแก้ว เจียระไน ไว้แดนสรวง
กว่าจะหยด รดหยาด ราดแดดวง
กลั่นกรองตวง พวงพร้อม จึงน้อมลง

ล้วนทุกบท ทุกตอน แสนอ้อนออด
หวานตลอด พรอดพร่ำ ฉ่ำประสงค์
เปี่ยมมนต์ขลัง หอห้อง ฆ้องแตรวง
ร่วมขานขับ สดับส่ง ถึงนงคราญ
พันทอง







ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

กังวาน, yaguza, ดาว อาชาไนย, รัตนาวดี, พี.พูนสุข, เนิน จำราย, ปู่ริน, รพีกาญจน์, sunthornvit

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s