Re: กลอนรัก...(โคลง4 บทแรกที่หัดแต่ง)
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 05:46:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: กลอนรัก...(โคลง4 บทแรกที่หัดแต่ง)  (อ่าน 6068 ครั้ง)
toshare
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 303
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,388



« เมื่อ: 02 มิถุนายน 2012, 11:25:PM »


….เธอ ผู้เยี่ยมยุทธ์แล้……….แน่เลย
แรกผิด มิคล่องเคย………….จึ่งพลั้ง
เพียงสดับรับแนะเผย…..…….พลันฉับ…ปรับนา
ไหวพริบสุดกรอบรั้ง………..…เพราะพริ้งสวยสม



ไพเราะมากครับ ขอชม
และขอชมยิ่งกว่านั้นอีกใน ไหวพริบ ความสามารถ
ความใส่ใจ แก้ไขปรับเปลี่ยน เกินกว่าที่ผู้แนะไว้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ขอเสนอเพื่อพิจารณาครับ
ส่อง   เป็น   ผ่อง
(ดูความหมาย ผ่อง น่าจะเหมาะกว่า)
ผ่อง ๑ว. ปลั่ง, ปราศจากมลทิน, ไม่ขุ่นมัว, เช่น ผิวผ่อง หน้าผ่อง ขาวผ่อง.
ส่องก. ฉายแสง เช่น แดดส่อง ไฟส่อง ส่องไฟ แสงจันทร์ส่อง ตะวันส่องหน้า, ฉายแสงดู เช่น ส่องสัตว์ในป่า ส่องทาง

แม้น   เป็น   แม้
(แม้น อ่านเสนาะ น่าจะยากกว่า)
แม้ สัน. ผิ, หาก, เช่น แม้ฝนตก ฉันก็จะมา, ใช้ว่า แม้น ก็มี

พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒

อ๋อ คู่เชย  เป็น  คู่เขนย (คู่เคียงหมอน) เขนย เสียงจัตวา ขับเสนาะกว่าครับ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

รพีกาญจน์, หนามเตย, panthong.kh

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s