ณ ค่ำคืนหวั่นไหวจุดไฟฝัน
ผ้าห่มพันมือขวาใฝ่คว้าหมอน
กอดประกบก่ายร่างกลางที่นอน
ช่วงบั่นทอนทุรนอยู่คนเดียว
จะข้ามผ่านวานวันนั้นแสนยาก
มันเหงามากพ่ายแพ้คนแลเหลียว
กอดหมอนข้างต่างกันไม่พันเกลียว
ขาดการเยียวยากลับกระชับกาย
ยินแต่เสียงสาดส่ายของสายฝน
แต่ละหนดั่งหยามถึงความหมาย
เป็นเจ้าสาวกลัวฝนไปจนตาย
จึงเดียวดายอาดูรคูณทวี
ยาก...พ้นผ่านคืนวันวสันต์สวาท
ร้อยหยดหยาดปรารถนามารศรี
ยังคงหลับข้างกายชายชาตรี
ฝันไม่ดี...ยอมอ่อนข้อแต่ก็...กลัว (อิอิ)
เจ้าพลิกร่างลืมตาเมื่อฟ้าเปิด
หลับก่อนเถิดขวัญตาฟ้ายังหลัว
คลี่ผ้าห่มคลุมหน้าฟ้าก็มัว
แก้วอย่ากลัวพี่จะกล่อมด้วยอ้อมกอด
ลืมตะวันไม่เห็นฟ้าเวหาหน
ซึ้งกมลครวญคร่ำเพลงพร่ำพรอด
เลียบฝั่งคลองเรือล่องคล่องตลอด
ไปไม่รอดจอดท่าน้องเหมือนต้องมนต์
เนิน จำราย
หลับก่อนเถิดขวัญตาฟ้ายังหลัว
คลี่ผ้าห่มคลุมหน้าฟ้าก็มัว
แก้วอย่ากลัวพี่จะกล่อมด้วยอ้อมกอด
ลืมตะวันไม่เห็นฟ้าเวหาหน
ซึ้งกมลครวญคร่ำเพลงพร่ำพรอด
เลียบฝั่งคลองเรือล่องคล่องตลอด
ไปไม่รอดจอดท่าน้องเหมือนต้องมนต์
เนิน จำราย