Re: ๐เสียงสะอื้นจากพงไพร๐
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
24 พฤศจิกายน 2024, 05:36:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ๐เสียงสะอื้นจากพงไพร๐  (อ่าน 3522 ครั้ง)
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



« เมื่อ: 29 พฤษภาคม 2012, 12:45:PM »

จงรู้จัก ปักชำ ย้ำจำกัด
ช่วยยืนหยัด ดำรง คงความหมาย
อนุรักษ์ ป่านี้ พลีใจกาย
แม้ชีพวาย ไพรอยู่ สู่ลูกหลาน

ควรพิทักษ์ รักษ์ป่า เป็นอาจิณ
คอยยลยิน ปรับปลุก ทุกสถาน
ริเรื่มต้น ปฏิ(บัติ) อภิบาล
ลุล่วงกาล ผ่านไป ได้ป่าคืน


"ดิน"
....................

ป่าชายเลนอุดมสมบูรณ์ด้วย
เป็นตัวช่วยตั้งแถวต้านแนวคลื่น
โหมกระหน่ำซัดฝั่งทั้งวันคืน
ยังเฝ้าฝืนรับหน้าท้าแดดลม

ต้นโกงกางนั้นหนารากมาหยั่ง
ล้อมหน้าหลังจำเพาะตามเหมาะสม
ต้นลำพูโผล่รากจากโคลนตม
เป็นทรงกลมแหลมมนปะปนมา

ปลาปูหอยรวมกุ้งมุ่งวางไข่
หลบตัวในรากไม้หมายเสาะหา
น้ำขึ้นลงสลับตามเวลา
พอแข็งกล้าหาที่ใหม่ในลำคลอง

ยามค่ำคืนเดือนคว่ำตามกาลนั้น
มีหิ่งห้อยนับพันผันแสงส่อง
ต่างกระพริบต่อเนื่องสีเรืองรอง
เฝ้านั่งมองเหมือนหลงอยู่ในหมู่ดาว

จินตนาการเกินไกลในภวังค์
คือความหวังเจอคู่สู่วัยสาว
ให้หิ่งห้อยต่างตุ้มหูดูวับวาว
แต่เรื่องราวคิดไว้ได้พังลง

ด้วยป่าไม้ถูกโค่นโล้นเตียนนั้น
หลายเผ่าพันธุ์สัตว์มีต่างหนีหลง
ทั้งลิงค่างชะนีหนีจากพง
อย่างมั่นคงอาศัยมาป่าลำพู

จับหิ่งห้อยกินเล่นเป็นอาหาร
เพียงไม่นานหมดไปให้อดสู
แสงวับวาวก่อนนี้ที่เคยดู
ทั้งตุ้มหูเรืองรองดับหมองไป.

นพ
29 พ.ค.55

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

yaguza, sunthornvit, รพีกาญจน์, แป้งน้ำ, พี.พูนสุข, sucklife, D, รัตนาวดี, อริญชย์, สะเลเต

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s