พุทธ ๓
พระสิทธัตถะเจ้า.......................ปรีชา
แอบประพาสพารา....................สลดเศร้า
เกิดแก่เจ็บมรณา.......................มิอาจ เลี่ยงเฮย
ทรงเบิ่งสมณะเจ้า.....................สงบซึ้งมโนหมาย
อริยสัจสี่ข้อ..............................ลำเค็ญ
พระจึ่งสิ้นสงบเย็น....................แต่นั้น
สมณะย่อมจักเป็น......................ที่พึ่ง
ดำริเมื่อคราครั้น........................ครุ่นแล้วปลีกแสวง
พระแสงขรรค์สะบั้น.................พระเมาลี
ริมฝั่งอโนมานที.........................ผนวชแล้ว
กาสาวพัตร์ทรงมี........................คลุมห่ม
วารล่วงวิศุทธิ์แผ้ว.......................ตรัสรู้ลุประสงค์
พุทธองค์ทรงตรัสชี้....................บอกทาง
เดินห่างหนมารพราง...................ล่อไว้
บุคคลย่อมละวาง........................ปลงปล่อย ได้แล
ทุกข์ดับเวียนวัฏฏ์ไร้......................จิตสิ้นปรารถนา
“”””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””
ลาบวช..
ศรัทธาจิตเกิดแล้ว.......................กอปรนำ
บุญส่งวิบากกรรม........................ก่อเกื้อ
สิกขาบทข้อธรรม.........................เพียรอ่าน
หมายร่วมวงศ์โอบเอื้อ...................ว่านเคื้อเครือเขษม
อกเปรมประณตไหว้......................ขอขมา
ใดล่วงเกินหากคา...........................ขุ่นข้อง
กรานขอท่านเมตตา........................ลุแก่ จิตเทอญ
เถิดอนุโมทนาก้อง..........................ร่วมซ้องในกุศล
กรรมใดข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินท่านทั้งหลาย ด้วยกายกรรมก็ดี ด้วยวจีกรรมก็ดี ด้วยมโนกรรมก็ดี
ข้าพเจ้า ขออโหสิกรรมต่อท่านทั้งหลาย ด้วยเจตนาบริสุทธิ์แห่งจิตนี้เป็นที่ตั้ง ขอท่านทั้งหลาย
โปรดอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า และร่วมอนุโมทนาการอุปสมบทครั้งนี้ด้วยเถิด
ปภัสร์
๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๕
พระสิทธัตถะเจ้า.......................ปรีชา
แอบประพาสพารา....................สลดเศร้า
เกิดแก่เจ็บมรณา.......................มิอาจ เลี่ยงเฮย
ทรงเบิ่งสมณะเจ้า.....................สงบซึ้งมโนหมาย
อริยสัจสี่ข้อ..............................ลำเค็ญ
พระจึ่งสิ้นสงบเย็น....................แต่นั้น
สมณะย่อมจักเป็น......................ที่พึ่ง
ดำริเมื่อคราครั้น........................ครุ่นแล้วปลีกแสวง
พระแสงขรรค์สะบั้น.................พระเมาลี
ริมฝั่งอโนมานที.........................ผนวชแล้ว
กาสาวพัตร์ทรงมี........................คลุมห่ม
วารล่วงวิศุทธิ์แผ้ว.......................ตรัสรู้ลุประสงค์
พุทธองค์ทรงตรัสชี้....................บอกทาง
เดินห่างหนมารพราง...................ล่อไว้
บุคคลย่อมละวาง........................ปลงปล่อย ได้แล
ทุกข์ดับเวียนวัฏฏ์ไร้......................จิตสิ้นปรารถนา
“”””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””
ลาบวช..
ศรัทธาจิตเกิดแล้ว.......................กอปรนำ
บุญส่งวิบากกรรม........................ก่อเกื้อ
สิกขาบทข้อธรรม.........................เพียรอ่าน
หมายร่วมวงศ์โอบเอื้อ...................ว่านเคื้อเครือเขษม
อกเปรมประณตไหว้......................ขอขมา
ใดล่วงเกินหากคา...........................ขุ่นข้อง
กรานขอท่านเมตตา........................ลุแก่ จิตเทอญ
เถิดอนุโมทนาก้อง..........................ร่วมซ้องในกุศล
กรรมใดข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินท่านทั้งหลาย ด้วยกายกรรมก็ดี ด้วยวจีกรรมก็ดี ด้วยมโนกรรมก็ดี
ข้าพเจ้า ขออโหสิกรรมต่อท่านทั้งหลาย ด้วยเจตนาบริสุทธิ์แห่งจิตนี้เป็นที่ตั้ง ขอท่านทั้งหลาย
โปรดอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า และร่วมอนุโมทนาการอุปสมบทครั้งนี้ด้วยเถิด
ปภัสร์
๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๕