ยามเหนื่อยอ่อนผ่อนองค์ลงนั่งพัก
ดั่งผันผลักหนักอึ้งซึ่งแผ่นผา
ให้เย็นรื่นชื่นลมพรมกายา
ทุเลาซาราร้อนให้ทอนลง
เช่นพฤกษาครามีผลดลปักษี
ให้เร็วรี่ปรี่ชิมด้วยลิ้มหลง
ครั้นไร้หมดรสจางก็ร้างปลง
สิ้นพะวงห่วงหาอำลาไกล
เปรียบศาลาพฤกษาเห็นเป็นประจักษ์
ยามสิ้นรักมักเลือนเหมือนผลักไส
โอ้ประหลาดอนาถย้ำให้ช้ำใจ
หมดเยื่อใยไร้รู้สึกสำนึกจำ
อกพี่เป็นเช่นศาลานิจจาเอ๋ย
ยามชื่นเชยเขนยแนบแอบงามขำ
ใครเล่าหนาอุราพร่ำซึ้งลำนำ
ที่รินร่ำจำเรียงยามเคียงเรา
วันนี้เหงาเศร้าวิญญาณ์ศาลาอก
น้ำตาตกหมกไหม้หทัยเหงา
ขอฟ้าดินอินทร์ท่านช่วยบรรเทา
อย่าให้เฝ้าเขลาลำเค็ญเป็นศาลา...
-บูรพาท่าพระจันทร์-
แม้นไม่จำ ย้ำคืน ไม่ฝืนจิต
จะไม่คิด สร้างปม ถมปัญหา
ไม่หวังสิ่ง ตอบกลับ เพื่อรับมา
ขอเพียงเธอ หรรษา อย่าหวั่นใด
สิ่งที่มอบ ไม่ฝืน เธอยื่นกลับ
ขอเพียงซับน้ำตา คราหม่นไหม้
ปลดความเหงา เศ้ราซม ขมในใจ
เพื่อเธอไป พบสุข สิ้นทุกข์ตรม
เพียงเท่านี้ แหละหนอ พอแล้วฉัน
ที่สำคัญ เธอนั้น ผ่านขื่นขม
ไม่ต้องรับ รอยหม่น ทุกคนชม
ก็สุขสม ดั่งฝัน ที่ฉันรอ
เป็นศาลา พักใจ เพื่อคลายหมอง
ไม่คิดครอง เธอไว้ แม้นใจขอ
จะรับเอา ความช้ำ น้ำตาคลอ
แม้นจะท้อ อย่าไร จำใจทน
เก็บความช้ำ ระกำจิด ปกปิดหวง
เพียงในทรวง เธอหายคลายสับสน
แผลที่ใจ ลบเลือน รอยเปื้อนปน
ชื่นกมล พ้นบ่วง....หมดห่วงเธอ...
"สุนันยา"
จะไม่คิด สร้างปม ถมปัญหา
ไม่หวังสิ่ง ตอบกลับ เพื่อรับมา
ขอเพียงเธอ หรรษา อย่าหวั่นใด
สิ่งที่มอบ ไม่ฝืน เธอยื่นกลับ
ขอเพียงซับน้ำตา คราหม่นไหม้
ปลดความเหงา เศ้ราซม ขมในใจ
เพื่อเธอไป พบสุข สิ้นทุกข์ตรม
เพียงเท่านี้ แหละหนอ พอแล้วฉัน
ที่สำคัญ เธอนั้น ผ่านขื่นขม
ไม่ต้องรับ รอยหม่น ทุกคนชม
ก็สุขสม ดั่งฝัน ที่ฉันรอ
เป็นศาลา พักใจ เพื่อคลายหมอง
ไม่คิดครอง เธอไว้ แม้นใจขอ
จะรับเอา ความช้ำ น้ำตาคลอ
แม้นจะท้อ อย่าไร จำใจทน
เก็บความช้ำ ระกำจิด ปกปิดหวง
เพียงในทรวง เธอหายคลายสับสน
แผลที่ใจ ลบเลือน รอยเปื้อนปน
ชื่นกมล พ้นบ่วง....หมดห่วงเธอ...
"สุนันยา"