พุทธ ๒
ปุจฉา..?
กล้าไม้หยั่งรากแล้ว...........ผลิใบ
แทงกิ่งชูก้านไกล.............แผ่คุ้ม
ปรกบังร่มเงาไป...............ได้ผ่อน ระอุเฮย
สัตว์ต่างหลบเข้าซุ้ม..........รื่นล้อเริงสถาน
ล่วงวารใบดอกคว้าง..........ปลิดโรย
แดดส่องไร้ลมโชย...........อบอ้าว
รกเรื้อมิกวาดโกย.............พูนเพิ่ม
เท้าเกลี่ยหนทางก้าว.........ยากแท้จักเห็น
จักเป็นผู้อิ่มด้วย................ภิรมย์
พึงหมั่นเพียรอย่างม...........เงื่องคร้าน
ดอกใบหล่นทับถม.............เก็บกวาด ทิ้งแฮ
จักสุขไร้ทุกข์ต้าน..............เมื่อไม้ตายสูญ
วิสัชนา..=
อวิชชาเมื่อหยั่งแล้ว.............กลางใจ
กิเลสจักงามใน..................จิตนั้น
สำคัญผิดว่าไฟ..................เย็นรื่น
หลงพ่ายลวงปรนปั้น............เล่ห์ชั้นตัณหา
อาสวะชวนยั่วเย้า................ประชุม
ทุกข์จู่โจมเกาะกุม...............เหนี่ยวพร้อม
ปัญญาดั่งถูกคลุม................มืดบอด
จิตห่างทางนำน้อม..............สู่ห้อมธรรมถวัลย์
ขันติพาเลิศล้วน.................สำราญ
ความหมั่นเพียรนำพาน..........ผ่องแผ้ว
ตรึกเลศแห่งเหตุการณ์..........ถ้วนถี่
จักสว่างดังดวงแก้ว..............สบแพร้วสถิตสถาน
ปภัสร์
๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๕