พี่ก็ฝันตลอดแม่ยอดรัก
วันหนึ่งจักเคียงคู่อยู่เพียงสอง
นิ้วก้อยเกี่ยวเหนี่ยวรับประคับประคอง
มีเพียงน้องกับพี่เท่านี้พอ
นั่งชมจันทร์แจ่มจ้าฟ้าแจ่มใส
เราชิดใกล้พร่ำพลอดออดอ้อนขอ
ว่าจันทร์จ๋าข้ามีเจ้าเคียงเคล้าคลอ
มิอยากรอทรัพย์สินใดไม่ต้องการ
จะหยอกเย้าเซ้าซี้ชี้ชวนฝัน
ดูโน่นจันทร์ลับหายกายประสาน
ความมืดมิดชิดกันนั้นแสนนาน
ทรมานแต่ก็สุขในทุกตอน
ก็แค่ฝันวันก่อนตอนฉันเหงา
คิดถึงเขานั้นหนักยิ่งดังสิงขร
อยากจะเผยเอ่ยความนัยให้สังวรณ์
แต่งเป็นกลอนส่งความรักมาทักทาย
วันหนึ่งจักเคียงคู่อยู่เพียงสอง
นิ้วก้อยเกี่ยวเหนี่ยวรับประคับประคอง
มีเพียงน้องกับพี่เท่านี้พอ
นั่งชมจันทร์แจ่มจ้าฟ้าแจ่มใส
เราชิดใกล้พร่ำพลอดออดอ้อนขอ
ว่าจันทร์จ๋าข้ามีเจ้าเคียงเคล้าคลอ
มิอยากรอทรัพย์สินใดไม่ต้องการ
จะหยอกเย้าเซ้าซี้ชี้ชวนฝัน
ดูโน่นจันทร์ลับหายกายประสาน
ความมืดมิดชิดกันนั้นแสนนาน
ทรมานแต่ก็สุขในทุกตอน
ก็แค่ฝันวันก่อนตอนฉันเหงา
คิดถึงเขานั้นหนักยิ่งดังสิงขร
อยากจะเผยเอ่ยความนัยให้สังวรณ์
แต่งเป็นกลอนส่งความรักมาทักทาย
ฝันเรียง เคียงใครที่ไหนหนอ
ฟังเสียพ้อ ต่อคำ ดุจย้ำหมาย
โอ้ฤดี มือื่น ชื่นเคียงกาย
รินอักษร ร่ำร่าย ระบายมา
คงมิใช่ น้องสุ ระบุบอก
จึงต้องออกเพลงกลอน ฉะอ้อนหา
รอเพียงฝัน เหมือกัน สุนันยา
ขาดรักพา ภิรมย์ ชื่นสมปอง
ถ้อยตอกย้ำทำได้ เพียงใจฝัน
มิมีวันได้เห็น เป็นเจ้าของ
สุขอุรา ฝันคู่ อยู่ประคอง
ความจริงต้อง ห่างหาย ไกลสัมพันธ์
พี่ก็ฝัน ฉันก็ฝัน มันแสนเศร้า
ไม่มีเราเป็นคู่ ดูโศกศัลย์
ต่างคนต่าง ไร้ใจ มอบให้กัน
สุดปลายทาง ไม่มีวัน พบฝันจริง
“สุนันยา”