๏ ฝนซาฟ้าไร้หม่น
เมฆลอยหนก็เฉิดฉัน
เปิดกว้างรับตาวัน
ให้สาดแสงแยงออกมา
๏ หยาดน้ำที่ฉ่ำไม้
ร่วงรินไหลทั่วชายป่า
นั่นหนึ่งภุมรา
ดูดเกสรดอมโกสุม
๏ ยามฝนผ่านล่วงลับ
เวลากัปคลายหมดกลุ้ม
สีรุ้งต่างชุมนุม
เรียงแปดสายกินนที
๏ มนุษย์เห็นเพียงเจ็ด
ยาวลอดเล็ดโค้งเล่นสี
รุ้งแปดความจริงมี
แต่สีใสจึงไร้เงา
๏ เหมือนคนอับจนทรัพย์
ต้องอาภัพกับความเศร้า
คนรวยไม่เห็นเขา
เหมือนมนุษย์ไม่เห็นรุ้ง
เมฆลอยหนก็เฉิดฉัน
เปิดกว้างรับตาวัน
ให้สาดแสงแยงออกมา
๏ หยาดน้ำที่ฉ่ำไม้
ร่วงรินไหลทั่วชายป่า
นั่นหนึ่งภุมรา
ดูดเกสรดอมโกสุม
๏ ยามฝนผ่านล่วงลับ
เวลากัปคลายหมดกลุ้ม
สีรุ้งต่างชุมนุม
เรียงแปดสายกินนที
๏ มนุษย์เห็นเพียงเจ็ด
ยาวลอดเล็ดโค้งเล่นสี
รุ้งแปดความจริงมี
แต่สีใสจึงไร้เงา
๏ เหมือนคนอับจนทรัพย์
ต้องอาภัพกับความเศร้า
คนรวยไม่เห็นเขา
เหมือนมนุษย์ไม่เห็นรุ้ง
บัณฑิตเมืองสิงห์
ฝนซา อาทิตย์ส่อง
แสงเรืองรอง จับท้องทุ่ง
ห้วยหนอง คลองจรุง
กอผักบุ้ง มุงผิวชล
แถบรุ้ง แผ่คุ้งโค้ง
ยืนจรรโลง โยงเวหน
ประดับ ทับภูดล
ดินอิ่มฝน ชนอิ่มใจ
สุนทรวิทย์
แสงเรืองรอง จับท้องทุ่ง
ห้วยหนอง คลองจรุง
กอผักบุ้ง มุงผิวชล
แถบรุ้ง แผ่คุ้งโค้ง
ยืนจรรโลง โยงเวหน
ประดับ ทับภูดล
ดินอิ่มฝน ชนอิ่มใจ
สุนทรวิทย์