ปล่อยใจตนวนว่ายกอดก่ายทุกข์
ไร้สนุกสุขหายไม่หมายสม
เปิดความหลังนั่งฝืนกลืนระทม
เกินจะข่มใจห่างอย่างร้าวรอน
มองแผลเป็นเด่นชัดเกินปัดเป่า
เห็นแล้วเศร้ายังขมตรมสมร
อยู่กับความชอกช้ำลำนำกลอน
พร่ำอาวรณ์นอนเหงาร่ายเล่าความ
ไยโหยหาอาวรณ์สะท้อนจิต
รู้สึกผิดคิดย้ำกระหน่ำถาม
หรือเพราะตนหม่นท้อหนอทุกยาม
เกินจะห้ามใจหวนรัญจวนจินต์
หากยังหวนโหยหาไยลาจาก
ไยต้องพรากจากคู่อยู่ถวิล
เป็นผู้แพ้หรือไร..ใจรวยริน
รักขาดสิ้นกลิ่นหาย..ได้อย่างไร..?
ไร้สนุกสุขหายไม่หมายสม
เปิดความหลังนั่งฝืนกลืนระทม
เกินจะข่มใจห่างอย่างร้าวรอน
มองแผลเป็นเด่นชัดเกินปัดเป่า
เห็นแล้วเศร้ายังขมตรมสมร
อยู่กับความชอกช้ำลำนำกลอน
พร่ำอาวรณ์นอนเหงาร่ายเล่าความ
ไยโหยหาอาวรณ์สะท้อนจิต
รู้สึกผิดคิดย้ำกระหน่ำถาม
หรือเพราะตนหม่นท้อหนอทุกยาม
เกินจะห้ามใจหวนรัญจวนจินต์
หากยังหวนโหยหาไยลาจาก
ไยต้องพรากจากคู่อยู่ถวิล
เป็นผู้แพ้หรือไร..ใจรวยริน
รักขาดสิ้นกลิ่นหาย..ได้อย่างไร..?
"บ้านริมโขง"
ไม่อยากเปิด ใจหม่น ให้ทนทุกข์
ไม่อยากขลุก หมกมุ่น ไออุ่นได้
ไม่ออยากฝืน ระอา เหว่ว้าใด
กลัวหมองไหม้ จมอยู่ ไม่รู้ตัว
เพียงแผลเป็น เช่นนี้ ไม่มีเจ็บ
วันหนาวเหน็บ ผ่านพ้น ทนไปทั่ว
ซุ่มรักเก่า พังพาด ให้หวาดกลัว
ยามหมองมัว มืดมน ไม่สนเลย
จึงขอจด ขอจำ เพื่อย้ำจิต
หากใช้สิทธิ์ ต่อไป ไม่ไหวเอ่ย
ขอจากจบ เลิกลา ระอาเอย
อย่าว่าเลย ถึงแม้ ต้องแปรไป
พันทอง