คราวนี้มอง ฟ้าไกล ไร้สีสัน
จากนี้ไป ทุกวัน นั้นมองเหม่อ
ยลภาพถ่าย ลายเซ็น เห็นภาพเบลอ
น้ำตาเอ่อ ร่วงอาบ ทาบสองปราง
มองอาหาร พาลขม ตรมสะอื้น
ฤทัยฝืน กลืนกล้ำ ย้ำหมองหมาง
น้ำตาใจ ไหลย้อน มิผ่อนบาง
ตาพร่าพราง กลางคำข้าว ผ่าวลงคอ
ทางเดินเคย คู่เคียง เพียงเราสอง
ครานี้ต้อง หมองเดี่ยว เปลี่ยวจริงหนอ
ทางเดินใจ ร้างไร้ ใครพนอ
น้ำตาคลอ รอซับ กับตัวเอง
จากนี้ไป ทุกวัน นั้นมองเหม่อ
ยลภาพถ่าย ลายเซ็น เห็นภาพเบลอ
น้ำตาเอ่อ ร่วงอาบ ทาบสองปราง
มองอาหาร พาลขม ตรมสะอื้น
ฤทัยฝืน กลืนกล้ำ ย้ำหมองหมาง
น้ำตาใจ ไหลย้อน มิผ่อนบาง
ตาพร่าพราง กลางคำข้าว ผ่าวลงคอ
ทางเดินเคย คู่เคียง เพียงเราสอง
ครานี้ต้อง หมองเดี่ยว เปลี่ยวจริงหนอ
ทางเดินใจ ร้างไร้ ใครพนอ
น้ำตาคลอ รอซับ กับตัวเอง
(เหมือนมาซ้ำพี่เลยอ่ะ)
ยามสายฝนโปรยปรายกายเหน็บหนาว
ไม่มีสาวเคียงใกล้ใจโหวงเหวง
เย็นสายลมพรมพลิ้วปลิวละเลง
ฉันนอนเขลงเปล่าเปลี่ยวห่อเหี่ยวใจ
ฟังสายฝนหล่นมาเสียงซ่าซู่
นอนคุดคู้อารมณ์ตรมหวั่นไหว
ขาดอกอุ่นหนุนนอนถอนฤทัย
เหน็บหนาวไปถึงขั้วทั่วใจกาย
ขาดคู่เรียงเคียงครองต้องหมองหม่น
มองสายฝนโปรยมาพาใจหาย
อยู่โดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาเศร้าเดียวดาย
ใจสลายขาดรักที่พักพิง
ไม่มีสาวเคียงใกล้ใจโหวงเหวง
เย็นสายลมพรมพลิ้วปลิวละเลง
ฉันนอนเขลงเปล่าเปลี่ยวห่อเหี่ยวใจ
ฟังสายฝนหล่นมาเสียงซ่าซู่
นอนคุดคู้อารมณ์ตรมหวั่นไหว
ขาดอกอุ่นหนุนนอนถอนฤทัย
เหน็บหนาวไปถึงขั้วทั่วใจกาย
ขาดคู่เรียงเคียงครองต้องหมองหม่น
มองสายฝนโปรยมาพาใจหาย
อยู่โดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาเศร้าเดียวดาย
ใจสลายขาดรักที่พักพิง